วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:25 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่" ลงนามแต่งตั้ง "ไตรรงค์" นั่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

วันพุธ ที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 14.57 น.

เมื่อวันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้ง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ

สำหรับคำใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

(ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ดร. ไตรรงค์ สุวรรณคีรี)

"อนุทิน" ชี้ถึงเวลา"บิ๊กตู่"ลงเล่นการเมืองเต็มตัว 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมวผกลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เป็นเวลาประมาณ 45 นาที

จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกฯ ว่า ตนได้ชวนนายศักดิ์สยามเข้าพบนายกฯเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของนายศักดิ์สยาม ครบ 60 ปี ซึ่งตามธรรมเนียม เป็นการขอพรนายกฯโดยท่านได้ให้พรช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมืองและให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งสองคน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยอนาคตการเมืองข้างหน้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าก็คุยกัน โดยคุยว่าใกล้เลือกตั้งแล้วความพร้อมเตรียมการอะไรไว้หรือยังซึ่งเราก็บอกว่าพรรคภูมิใจไทยเตรียมการเลือกตั้งมาระยะหนึ่งแล้วและจะเข้าสู่ปีที่ 4 ก็ยืนยันท่านไป

เมื่อถามว่าได้ถามนายกฯหรือไม่ เตรียมการเลือกตั้งในวันข้างหน้าของตัวท่านอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ไม่กล้าถามท่านไม่ได้พูดเรื่องของท่าน เมื่อถามว่านายกฯ ได้พูดในทางการเมืองอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า ก็บอกว่าให้ทำงานกันไป มีปัญหาอะไรหรือไม่ และปัญหาที่เป็นข่าวอยู่มีอะไร ซึ่งยืนยันกับนายกฯไปว่า เป็นเรื่องความเห็นที่แตกต่างกัน สุดท้ายก็เป็นเรื่องของสภาอย่างกรณีกฎหมายกัญชา อะไรต่างๆเมื่อถูกบรรจุเข้ามาในสภาเพื่อพิจารณาเราก็ต้องรับฟังความเห็นของฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งตนมั่นใจว่าทางคณะกรรมาธิการที่ร่างกฎหมายก็พร้อมที่จะนำไปแก้ไขปรับปรุง

"ยืนยันท่านไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่จะทำให้รัฐบาลของท่านจะมีอุปสรรคหรืออะไร ในส่วนของงานยังทำเหมือนเดิม" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ได้รายงานระบบการสาธารณสุข ที่ทางองค์การอนามัยโลกมาประเมินอีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้เราก็ได้แทบจะเรียกว่าเป็น เอบวกได้คะแนนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 80% ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข ด้านการอนามัยในระดับโลก เมื่อเปิดประเทศผ่อนคลายมาตรการโควิดประเทศไทยเราน่าจะมีโอกาสมีศักยภาพสำหรับคนต่างชาติที่จะมาใช้ประเทศไทยเราเป็นแหล่งการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป

เมื่อถามว่า ถึงวันนี้ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะพูดได้หรือไม่ว่ายังสนับสนุนถ้าพลเอกประยุทธ์จะไปเป็นนายกฯต่ออีก นายอนุทินกล่าวว่าเราต้องผ่านการเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนอย่างที่ตนเรียนเราไม่สามารถที่จะไปพูดอะไรก่อนการเลือกตั้งได้ เพราะคนที่ตัดสินใจอนาคตของนักการเมืองหรือทิศทางทางการเมืองคือพี่น้องประชาชน เรากำลังจะมีการเลือกตั้งยังไงก็ไม่เกิน 6 หรือ 8 เดือนข้างหน้านี้อยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราต้องฟังเสียงของพี่น้องประชาชนก่อนหลังจากการเลือกตั้งเราจะเห็นทิศทางที่ชัดเจน

เมื่อถามว่า ในระหว่างที่ยังไม่มีการยุบสภาหรือหมดวาระในเวลานี้ นายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมหรือไม่ นอกจากที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอขอปรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เอง นายอนุทิน กล่าวอุทานว่า เออ ลืมถามเลย เมื่อถามว่า ลืมจริงๆหรือเออเฉยๆ นายอนุทินกล่าวว่า ลืมถามพอดีพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปรับ ลืมถามจริงๆเออจริง สะดุ้งเฮือกเลยเมื่อกี้นี้ มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราหากถามไปก็ไม่เกี่ยวกับเรา

เมื่อถามว่าเก้าอี้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ว่างอยู่ก็จะไม่เติมใครเข้าไปใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ว่างรัฐมนตรีกนกวรรณ ก็ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่ว่าด้วยข้อจำกัดก็ต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ พรรคภูมิใจไทยมีประเพณีวิธีการปฏิบัติต่อระบบของพรรคเรา ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ไปนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติมองว่าจะเป็นการดีหรือไม่ในการแยกออกมานายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าดี คนที่เป็นนักการเมืองอย่างตนตอนที่ยังไม่ได้เป็นส.ส.ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน พอมาเป็นส.ส.จะมีฐานทางการเมืองที่แน่นหนาขึ้น ท่านนายกฯ ก็เหมือนกันเป็นถึงนายกรัฐมนตรี มา 7-8 ปีแล้ว ถ้าจะเข้าไปในระบบพรรคการเมืองจะเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้บริหารพรรคอะไรก็แล้วแต่ ก็ยิ่งทำให้ท่านมีฐานการเมืองที่แน่นหนาและมีความสมบูรณ์ ก็ดี

เมื่อถามว่า มันควรจะเป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งคราวหน้าจะเป็นประชาธิปไตย โดยสมบูรณ์แล้วใช่ไหม มันไม่ได้เป็นการเปลี่ยนถ่ายจากสมัยคราวที่แล้วยังมีคสช.ยังมีบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญมีอะไรต่างๆนานาเหลือบทเฉพาะกาลอย่างเดียวคือส.ว.อีก 2 ปีก็จบ

เมื่อถามว่า ความขัดแย้งระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดูทรงแล้วจะแยกกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคใครพรรคมันสิ

เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่จับมือกันจะเลือกฝั่งไหน นายอนุทินกล่าวว่า ให้เลือกตั้ง และดูผลการเลือก ต้องเลือกตั้งเสร็จก่อน

เมื่อย้ำถามว่าจะเลือกพรรคลุงตู่หรือพรรคลุงป้อมนายอนุทิน กล่าวว่าเราไม่ใช่เป็นคนพูดยากอยู่แล้วอะไรที่ดีกับบ้านเมืองเอาหมด

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมามีความใกล้ชิดทั้งลุงตู่และลุงป้อมมองว่า 2 คนนี้แยกทางกันจะไปรอดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นแบบแยกกันเดินรวมกันตีมันก็ไม่เป็นไร

เมื่อย้ำถามว่าถ้าแยกกันเลยจริงๆล่ะนายอนุทินกล่าวว่า คงไม่มั้ง โอ้โหคบกันมา 40-50 ปีอย่างที่ท่านว่าเมื่อถามว่าแสดงว่า ท่านเองก็มองไม่ได้มีความขัดแย้งกันจริงินายอนุทินกล่าวว่า ความผูกพันมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

เมื่อถามว่า ที่บอกว่านายกน่าจะเข้าสู่ระบบการเมืองแบบเต็มตัวแสดงว่าความคาดหวังไม่ใช่แค่เคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเท่านั้นใช่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่าไปถามนายกสิ

 

หน้าแรก » การเมือง