วันที่ 16 มกราคม 2566 ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 2 (อ.ปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาโครงสร้างราคาการตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการ บริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปาล์มน้ำมัน) เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรและลานเทในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เรื่องราคาปาล์มน้ำมันที่มีราคาตกต่ำ โดยลานเทรับซื้อเพียงแค่ 3.4-3.5 บ./กก. (รวมทั้งหมดในพื้นที่ 6 จังหวัด ชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และตรัง) และปัจจุบันนี้ลานเทหลายรายเองไม่กล้ารับซื้อ เนื่องจากกลัวการชะลอรับซื้อของโรงานสกัดปาล์ม

ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมการค้าภายในพบว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.66 ราคาเฉลี่ยของการรับซื้อปาล์มในพื้นที่ 3 จังหวัด ชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี อยู่ที่ 4.40-5.00 บ./กก. ซึ่งไม่ตรงกับความจริงของการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่

ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบ (cpo)  สต็อกปริมาณน้ำมันปาล์มดิบล่าสุด เมื่อเดือน พ.ย.65 มีปริมาณในสต็อกรวมทั้งหมด 417,000 ตัน โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบ (cpo) ขณะนี้อยู่ที่ 28-29 บ./กก. ณ ท่ากรุงเทพ และราคาประเทศมาเลเซียอยู่ที่ 29.87 บ./กก. ซึ่งปรับลดลงมาจากราคาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.65 ราคาประเทศไทยอยู่ที่ 32 บ./กก. และราคามาเลเซียอยู่ที่ 31 บ. ซึ่งราคาดังกล่าวเข้าเงื่อนไขหากมีสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศเกิน 300,000 ตัน และราคาน้ำมันปาล์มในประเทศสูงกว่าราคาต่างประเทศ ผู้ส่งออกจะได้รับเงินสนับสนุนการส่งออกจากรัฐ กก.ละ 2 บาท โดยใช้เงินจากโครงการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ของกระทรวงพาณิชย์ (ซึ่งยังมีงบเหลืออีกประมาณ 300 ล้านบาท)

สำหรับราคาน้ำมันปาล์มขวด ตามข้อตกลงกำหนดราคาน้ำมันของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ (กนป.) ได้กำหนดให้ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดไม่เกิน 45 บ./ขวด ขณะที่ราคาต้นทุน (ไม่รวม VAT 7% = 3.1บ.) ในวันนี้ อยู่ที่ 45.04 บ./ขวด (29+ 12.94 (ต้นทุนบรรจุขวด) + 3.1 บ.) 

ด้านราคาขายส่งน้ำมันปาล์มขวด (ข้อมูล 29 ธ.ค.65) เฉลี่ยอยู่ที่ 47.941 บ./ขวด ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มขวดขายปลีกในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ปัจจุบันอยู่ที่ 51บ./ขวด เท่ากับว่าขณะนี้การซื้อขายปลีกน้ำมันปาล์มขวดจึงมีส่วนต่างกำไรอยู่ที่ประมาณ 6 บาท กำไรส่วนต่างนี้อยู่ที่ใคร

เช่นเดียวกันกับการหยุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม (ซึ่งอยู่ในอำนาจของ 1 ใน5 เสือ น้ำมันปาล์ม) เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ข้อมูล ณ วันที่ 13 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ยังมีโรงงานที่ปิดรับซื้ออยู่ 22 แห่งจากทั้งหมด 80 แห่ง

โดยหากราคาปาล์มยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ซึ่งมีราคาอยู่ต่ำกว่า 4 บ./กก. จะเข้าเงื่อนไขของโครงการรับประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นโครงการที่พรรคการเมืองหนึ่งมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งให้สามารถใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่  อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรระวังต่อจากนี้คือในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ของทุกปี กระทรวงพาณิชย์จะอนุญาตให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มลดลง หรือ “ช่วงปาล์มขาดตอ” ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการเกิดการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มตามมาในที่สุด