วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:09 น.

การเมือง

"อนุทิน" นำผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทย 17 จังหวัดภาคเหนือ "City Tour นครหริภุญชัย" ส่งเสริมการท่องเที่ยว

วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.09 น.

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568   เวลา 07.49 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะ เข้ากราบสักการะพระพุทธสิทธิมณีศรีหริภุญไชย พระประธานในวิหารหลวง และกราบนมัสการพระธาตุหริภญชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน โดยได้รับเมตตาจาก พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร นำประกอบพิธี โอกาสนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนางจิณณารัตน์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภาคเหนือ และส่วนราชการ ร่วมสักการะ
 
วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของพญาอาทิตยราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ โดยสถานที่ตั้งวัด แต่เดิมเคยเป็นพระราชฐานของพระองค์ซึ่งพระราชทานอุทิศถวายให้เป็นวัดพระธาตุฯ เพื่อเป็นพุทธบูชาหลังจากที่พระบรมสารีริกธาตุได้ปรากฏ ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรในบริเวณดังกล่าว โดยมี "พระธาตุหริภุญชัย" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อันเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติบัญชร หรือรั้วหอก (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทอง ประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูป นั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป และมีองค์ "พระพุทธสิทธิมณีศรีหริภุญไชย" เป็นพระประธานในพระวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร คาดว่าสร้างขึ้นมาภายหลัง ปี พ.ศ. 2458
 
โอกาสนี้ พระเทพรัตนนายก กล่าวสัมโมทนียกถาความโดยสังเขปว่า วัดทุกวัดในประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน เป็นสมบัติที่เราควรดูแลรักษาไว้ไม่มีใครไม่มีสิทธิ์เอาวัดไปจำหน่ายจ่ายแจก เพราะวัดเป็นของราชการ ญาติโยมทั้งหลายมาทำบุญด้วยแรงศรัทธา จึงขอฝากท่านทั้งหลาย นำโดยท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดผู้เป็นหัวกะทิของจังหวัดในการนำหัวหน้าส่วนราชการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ช่วยกันทำนุบำรุงส่งเสริม เมื่อทุกคนทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ประเทศไทยจะปลอดภัย เราจะร่วมกันแก้ปัญหาด้วยพลังปัญญา ปัญญาเอาไว้แก้ปัญหา คือ ความทุกข์ และขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อตัวเราและประชาชนมีความอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป
 
จากนั้น ในเวลา 08.49 น. นายอนุทิน และคณะ นำผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภาคเหนือ ร่วมสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางทรงเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม เป็นนักรบที่มีความสามารถและกล้าหาญชาญชัย เป็นผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแผ่ในดินแดนแถบนี้จนรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2525
 
ต่อมา ในเวลา 09.49 น. นายอนุทิน และคณะ เข้ากราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
 
พระราชวัชรสุทธิวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถาความตอนหนึ่งว่า “จิต“ คือสิ่งสำคัญของการใช้ชีวิต เพราะจะคอยกำหนดสถานะของตัวเราจากข้างใน เป็นจุดเริ่มต้นของการคิด การประพฤติตน ว่าเราจะเจริญสูงสุดหรือตกต่ำสุด ถ้าหากจิตดีก็จะทำให้เรากล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ถ้าจิตอธรรมย่อมทำให้เราตกต่ำในทางที่ไม่ดีไปด้วย ฉะนั้นการที่เรามีสภาวะ ”จิตดี“ ก็ย่อมส่งผลให้เกิด ”สติดี“ มีความปกติทางกาย วาจา ใจ เกิด “ปัญญา” หรือการรู้คิดว่าสิ่งใดควรไม่ควร รู้ว่าสิ่งใดคือความทุกข์ สิ่งใดคือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน อันจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตและการทำงานให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นหัวใจของผู้ที่ยึดมั่นใน “ธรรมะ“ 
 
ด้วยเหตุนี้ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และเหล่านักปกครองทุกท่าน จึงต้องพึงระลึกถึงการใช้ธรรมะ เป็นแนวทางครองตน ครองคน ครองงานอยู่เสมอ ต้องใช้ชีวิตอยู่บนความ “ไม่ประมาท” เพราะความประมาทเป็นหนทางไปสู่ความหายนะ เราต้องกล้าในสิ่งที่ควรกล้า เพื่อสรรค์สร้างประโยชน์ให้สังคมส่วนรวม กลัวในสิ่งที่ควรกลัว รู้ในสิ่งที่ควรรู้ และอย่าไปรู้มากในสิ่งที่ไม่ดี ที่ผิดกฎหมาย เราต้องรู้จักสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและผู้อื่น เคารพในธรรม ประพฤติธรรมในธรรม และสุดท้ายธรรมจะช่วยรักษาเราเสมอ และส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จ สามารถ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ประชาชนได้อย่างสุดกำลังความสามารถ
 
วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2545 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 โดยที่ดินวัดได้รับการถวายที่ดินจากเจ้าดารารัตน์ ณ ลำพูน ทายาทผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของตระกูลเจ้าผู้ครองนครลำพูน มีจำนวนเนื้อที่รวม 26 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา โดยมี พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล ป.ธ.5) เป็นประธานคณะสงฆ์ในการรับมอบเพื่อการจัดสร้างวัดในปกครองของคณะสงฆ์ธรรมยุตบนพื้นที่ดังกล่าว และต่อมา พระราชวัชรสุทธิวงศ์ หรือ พระอาจารย์อารยวังโส รับเป็นภาระธุระในการอำนวยการจัดสร้างวัดบนพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นวัดของคณะสงฆ์ธรรมยุตที่จะได้เป็นศูนย์การเผยแผ่การศึกษาปฏิบัติธรรมสืบสายปฏิปทาหลวงปู่มั่น ภูริทัตเถระ  จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนในประเทศจนถึงต่างประเทศ โดยมีวัตรปฏิบัติประจำวันของวัด คือ การทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และการฟังธรรม เพื่ออบรมจิตภาวนา
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง