วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 05:47 น.

การเมือง

"จุรินทร์" บุกภูเก็ต Kickoff สร้าง CEO Gen Z ปั้นแม่ทัพการค้ารุ่นใหม่

วันอาทิตย์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566, 14.04 น.

"จุรินทร์" บุกภูเก็ต Kickoff สร้าง CEO Gen Z ปั้นแม่ทัพการค้ารุ่นใหม่  เป้า 4 ปี ร่วม 46,500 คน ปลื้ม! เด็กวัยรุ่นแห่เซลฟี่สุดคึกคัก ซุ่มหนัก! ซูเปอร์โพล เปิดคะแนนนิยม "จุรินทร์-ประชาธิปัตย์"พุ่ง โดดเด่นด้านผลงาน"ช่วยเกษตรกรและส่งออก" มั่นใจแตะมือ ชวน-บัญญัติ คว้ารัฐบาลแน่  “ปชป.”  ติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. กทม. รองรับยุบสภา  “องอาจ” เผยประชาชนตอบรับผู้สมัครหน้าใหม่ พร้อมนโยบายมากขึ้น 

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566  เวลา 12.30 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดการอบรม Kick off โครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From GenZ to be CEO) ประจําปี 2566 ซึ่งมีเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ Gen Z เข้ามาพูดคุย ขอถ่ายรูปและเซลฟี่กับนายจุรินทร์เป็นจำนวนมาก บรรยากาศสนุกสนานสุดคึกคักและเป็นกันเอง ซึ่งเป็นโครงการที่เด็กรุ่นใหม่ให้ความสนใจตรงความต้องการของเด็กยุคใหม่ในปัจจุบันที่ต้องการเป็นนายตัวเอง

ภายในงานนายจุรินทร์กล่าวว่า โครงการ CEO Gen Z เป็นนโยบายที่ตนมอบเป็นให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถาบัน NEA (สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่) เป็นผู้ดำเนินการ ต้องการปั้น Gen Z ให้เป็น CEO เพราะเด็กรุ่นใหม่น้อยคนที่อยากเป็นพนักงานองค์กร บริษัท ส่วนใหญ่อยากเป็นนายตัวเองก็ต้องมีธุรกิจตัวเอง ซึ่งเรียนในมหาวิทยาลัยก็ดีแล้ว แต่โครงการนี้จะเป็นโครงการพิเศษของกระทรวงพาณิชย์ให้ความรู้เชิงลึกบวกกับภาคปฏิบัติ มีผู้ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จเป็น CEO ตัวจริง บริษัทระดับประเทศให้ความรู้ ให้เรียนจบแล้วสามารถนับหนึ่งเป็น CEO ได้อย่างถูกทิศทาง 

หลักสูตรเช่น การบริหารธุรกิจ การตลาดอีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ การค้าออฟไลน์และตลาดออนไลน์ วิชาวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ วิชาการส่งออกภาคปฏิบัติเบื้องต้น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับอนาคตและน้องที่เรียนในวิทยาลัยอาชีวะหรือภาควิชาชีพมีหลักสูตรพิเศษเพิ่ม ลงลึกการผลิต การตลาด การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับการเกษตรการประมง สมาร์ทฟาร์ม ออร์แกนิค และสินค้าอาหารแห่งอนาคต 

“โครงการนี้ทำมา 4 ปี มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมทั่วประเทศถึง 110 สถาบัน และ 3 ปีที่ผ่านมา ผลิต CEO Gen Z แล้วถึง 36,500 คน และปีนี้มาเริ่มเปิดโครงการที่นี่ โดยจัดทั้งหมด 13 รุ่น ตั้งเป้าทั้งปีไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ครบ 4 ปี จะมี CEO Gen Z ให้ประเทศไทย 46,500 คน สำหรับปีนี้จะเริ่มเรียนตั้งแต่ มีนาคมถึงมิถุนายน เป็นเวลา 3 เดือน และผู้ที่ได้คะแนน 500 คนแรก จะมี รางวัลพิเศษเพิ่มเติม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องที่ประสบความสำเร็จและ 100 คนแรกได้รับโอกาสฝึกงานเป็นกรณีพิเศษกับพันธมิตรที่มาร่วมหลักสูตร บริษัทพันธมิตร เช่น ได้แก่ True / Huawei / Bitkub / EXIM Bank / P&G / Coro Brothers / DHL / iStudio by SPVI / SVOA และ BOL ร่วมให้ความรู้ ขอขอบคุณสถาบันการศึกษาทั้ง 110 สถาบันที่ร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ตลอด 4 ปี ขอบคุณน้องๆ Gen Z ทุกคน ขอให้เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ จะเป็นตัวช่วยให้เราได้หน่วยกิตด้วยขณะที่เรียนหลักสูตรนี้  ให้เราสร้างเงินให้ตัวเอง ให้ครอบครัวและเป็นแม่ทัพสร้างเงินให้ประเทศของเราต่อไปอนาคต” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า ภายในงานมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ รองอธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และนายบำรุง ปิยนามวาณิช อดีตนายก อบจ.พังงาเข้าร่วมด้วย

ซุ่มหนัก! ซูเปอร์โพล เปิดคะแนนนิยม "จุรินทร์-ประชาธิปัตย์"พุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดผลสํารวจ เรื่อง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในใจประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดําเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จํานวน 1,102 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 – 10 มีนาคม พ.ศ.2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 15.4 ระบุอย่าง เดิมดีอยู่แล้ว

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.5 เชื่อมั่นว่า นายชวน หลีกภัย จะช่วยพรรคประชาธิปัตย์ได้ ในขณะที่ ร้อยละ 62.5 เชื่อมั่นว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จะช่วยพรรคประชาธิปัตย์ได้ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 84.5 เชื่อมั่นว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รวมพลังกับ นายชวน หลีกภัยและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน จะ ช่วยพาพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีกหลังการเลือกตั้ง 

และร้อยละ 80.9 ระบุ ผลงานเด่นของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ คือประกันรายได้เกษตรกร พืชเศรษฐกิจ ข้าว ข้าวโพด ยางพารา ปาล์ม มันสําปะหลัง
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.6 ระบุพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เป็นพรรคเก่าแก่ในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ร้อยละ 62.3 ระบุ ผลงานเด่นของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ คือผลงานกระทรวงพาณิชย์ ส่งออกการค้าระหว่างประเทศ สร้างรายได้ให้ประเทศและประชาชน 

และร้อยละ 61.5 ระบุ ผลงานเด่นของนายจุรินทร์ คือการค้าชายแดน ตามลําดับ ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงบุคลิกภาพของนายจุรินทร์ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2 ระบุยึดมั่นหลักการ มีจุดยืน มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ร้อยละ 68.9 ระบุ ความเป็นสุภาพบุรุษ ร้อยละ 64.4 ระบุเป็นมิตร ใจดี ยิ้มแย้ม ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ร้อยละ 63.9 ระบุ ทํางานจริง มีผลงาน เข้าถึงประชาชน และร้อยละ 53.6 ระบุ ทันสมัย ปรับตัวเข้าสมัยคนรุ่นใหม่

รายงานของสํานักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่า ผลโพลนี้เห็นชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ยังคงอยู่ในใจของประชาชนส่วนใหญ่และได้รับแรงสนับสนุนจากอดีตผู้นําพรรค ประชาธิปัตย์ทั้งนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ยิ่งทําให้กระแสความนิยมของ ประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์พุ่งสูงโดดเด่นขึ้นจากที่เคยสํารวจพบในปีที่แล้วที่เคยสํารวจการรับรู้ความพอใจ ของประชาชนต่อผลงานของหัวหน้าพรรคนายจุรินทร์ เรื่องการประกันรายได้เกษตรกร พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ยางพารา ปาล์ม และมันสําปะหลัง อยู่ที่ร้อยละ 60 กว่า ขึ้นมาอยู่ที่กว่าร้อยละ 80 เป็นต้น จึงอาจกล่าวได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์กําลังได้รับคะแนนนิยมกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในการสํารวจคร้ังนี้

“ปชป.” ติวเข้มผู้สมัคร ส.ส. กทม. รองรับยุบสภา  “องอาจ” เผยประชาชนตอบรับผู้สมัครหน้าใหม่ พร้อมนโยบายมากขึ้น 

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่รับผิดชอบพื้นที่ กทม. เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ปชป. ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ปชป. เพื่อรองรับการยุบสภาเข้าสู่โหมดเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยปรับการทำงานให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งการทำงานลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในทุกเขต และการทำงานสื่อสารทางโซเชียลมีเดียผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในนโยบายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการนำความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ประชาธิปัตย์ทุกคนมารับใช้ประชาชน

จากการทำงานในช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่าประชาชนตอบรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคมากขึ้นตามลำดับ ถึงแม้ว่าที่ผู้สมัครหลายคนจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่ก็ใช้เวลาคลุกคลีกับพี่น้องประชาชนมาพอสมควร

ขณะเดียวกันประชาชนใน กทม. ก็ให้ความสนใจในนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นนโยบายสามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับมหภาค และระดับจุลภาค เป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริง ไม่ใช่นโยบายขายฝันบนป้ายประกาศ เพื่อสร้างความน่าสนใจเท่านั้น แต่นโยบายของพรรคได้ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการที่มีทั้งบุคคลภายในและภายนอกพรรค และผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหลากหลายรูปแบบ จึงเชื่อมั่นได้ว่าเป็นนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง

หน้าแรก » การเมือง