เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรับแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2566

เวลา 08.00 น. ตัวแทนพรรคการเมืองทยอยเดินทางมาลงเวลากันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ซึ่งพรรคการเมืองแรกที่มาลงเวลาคือ พรรคเพื่อชาติไทย ลงชื่อในสมุดลงเวลา 05.49 น. โดยก่อนเวลา 08.30 น. พบว่ามีพรรคการเมืองลงเวลา จำนวน 49 พรรค

โดยตัวแทนพรรคการเมืองที่เข้าร่วมในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่น่าสนใจ อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย, นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส หัวหน้าพรรคเปลี่ยน, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประครอง ประธาน กกต. พร้อมด้วย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ, นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เข้าร่วมการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

จากนั้นเวลา 08.30 น. เลขาธิการ กกต.มีการหารือร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ที่ได้รับมอบหมายเพื่อตกลงกำหนดลำดับการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง หากไม่สามารถตกลงกันได้ ประธาน กกต.จะดำเนินการจับสลาก  โดยการจับสลากจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ 1.การจับสลากครั้งที่หนึ่ง ประธาน กกต.จับสลากชื่อพรรคการเมืองเพื่อจัดลำดับพรรคการเมืองที่มีสิทธิจับสลากลำดับในการยื่นใบสมัคร และ 2.การจับสลากครั้งที่สอง ให้หัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ที่ได้รับมอบหมายทำการจับสลากเรียงลำดับตามผลการจับสลากครั้งแรก เมื่อพรรคจับสลากได้หมายเลขใด ให้ถือเป็นลำดับในการยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร 

ผลการจับสลากเรียงลำดับจับเบอร์พรรค มีลำดับดังนี้   

เบอร์ 1 พรรคใหม่     เบอร์ 2 พรรคประชาธิปไตยใหม่    เบอร์ 3 พรรคเป็นธรรม           เบอร์ 4 พรรคท้องที่ไทย     เบอร์ 5 พรรคสังคมใหม่      เบอร์ 6 พรรคครูไทยเพื่อประชาชน     

เบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย  เบอร์ 8 พรรคแรงงานสร้างชาติ    เบอร์ 9 พลัง        เบอร์ 10 พรรคอนาคตไทย  เบอร์ 11 พรรคประชาชาติ  เบอร์ 12 ไทยรวมไทย    เบอร์ 13 พรรคไทยชนะ   

เบอร์ 14 พรรคชาติพัฒนากล้า      เบอร์ 15 พรรคกรีน    เบอร์ 16 พรรคพลังสยาม  เบอร์ 17 พรรคเสมอภาค  

เบอร์ 18 พรรคชาติไทยพัฒนา       เบอร์ 19 พรรคภาคีเครือข่ายไทย       เบอร์ 20 พรรคเปลี่ยน     เบอร์ 21 พรรคไทยภักดี         

เบอร์ 22 พรรครวมไทยสร้างชาติ       เบอร์ 23 รวมใจไทย  เบอร์ 24 พรรคเพื่อชาติ          เบอร์ 25 พรรคเสรีรวมไทย  

เบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์  เบอร์ 27 พรรคพลังธรรมใหม่   เบอร์ 28 พรรคไทยพร้อม    

เบอร์ 29 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 30 พรรคทางเลือกใหม่      เบอร์ 31 พรรคก้าวไกล 

เบอร์ 32 พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 33 พรรคไทยเป็นหนึ่ง  เบอร์ 34 พรรคแผ่นดินธรรม เบอร์ 35 พรรครวมพลัง   เบอร์ 36 พรรคเพื่อชาติไทย 

เบอร์ 37 พรรคพลังประชารัฐ  เบอร์ 38 พรรคเพื่อไทรวมพลัง เบอร์ 39 พรรคมิติใหม่     เบอร์ 40 พรรคประชาภิวัฒน์       เบอร์ 41 พรรคไทยธรรม   เบอร์ 42 พรรคไทยศรีวิไลย์   เบอร์ 43 พรรคพลังสหกรณ์ เบอร์ 44 พรรคราษฎร์วิถี เบอร์ 45 พรรคแนวทางใหม่ เบอร์ 46 พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล   เบอร์ 47 พรรครวมแผ่นดิน  เบอร์ 48 พรรคเพื่ออนาคตไทย   เบอร์ 49 พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย

ผู้สมัครส.ส. 400 เขต วันแรก 3,990 คน จาก 60 พรรคการเมือง

 
ทั้งนี้ตามที่คณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.) ​เปิดรับสมัครส.สแบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ทั้ง 400 เขต เมื่อวันที่ 3 เม.ย.เป็นวันแรก พบว่า ข้อมูล เมื่อเวลา 20.00 น. มีผู้ลงสมัครรวมทั้งสิ้น 3,990 คน จาก 60 พรรคการเมือง ทั้งนี้ มีจำนวนผู้สมัครเท่ากันคือพรรคละ 392 คน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ มีจำนวนผู้สมัคร 386 คน พรรคภูมิใจไทย มีจำนวนผู้สมัคร 378 คน พรรคเสรีรวมไทย มีจำนวนผู้สมัคร 377 คน พรรคไทยสร้างไทย มีจำนวนผู้สมัคร 325 คน พรรคไทยภักดี มีจำนวนผู้สมัคร 185 คน

พรรคชาติพัฒนากล้า มีจำนวนผู้สมัคร 99 คน พรรคไทยศรีวิไลย์ มีจำนวนผู้สมัคร93 คน พรรคพลังสังคมใหม่ มีจำนวนผู้สมัคร 61 คนพรรคเพื่อชาติ มีจำนวนผู้สมัคร 56 คน พรรครวมแผ่นดินมีจำนวนผู้สมัคร 53 คน พรรคชาติไทยพัฒนา มีจำนวนผู้สมัคร 49 คน

สำหรับการรับสมัครจะยังคงมีไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย. โดยหลังปิดรับสมัครผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ก่อนจะทำการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งหากผู้ใดไม่มีชื่อสามารถยื่นร้องต่อศาลฎีกาได้