วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 16:21 น.

การเมือง

"สุวัจน์" หนุนสร้างความเชื่อมั่นทางการเมือง พร้อมรวมเสียงกับพรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล

วันศุกร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566, 18.40 น.

  "สุวัจน์" พร้อมสนับสนุนการสร้างความเชื่อมั่นทางการเมือง พร้อมรวมเสียงกับพรรคอันดับหนึ่ง ตั้งรัฐบาล วอน  "กกต." จับตาการซื้อเสียง หวั่นมีผลกระทบกับความเชื่อมั่นผลเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 28  เมษายน 2566  ที่จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าและแคนดิเดตนายกฯ , นายเทวัญ ลิปตพัลล เลขาธิการพรรค ฐานะผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต1 พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต และแกนนำพรรค ร่วมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีที่3 ในพื้นที่จ.นครราชสีมา  ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

โดยก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)  และ เสด็จพ่อ ร.5 เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเวที และได้เดินทักทายประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่าบรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งมีความคึกคัก และตนประเมินว่าการเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนให้ความคาดหวังไว้สูง ต้องการการแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้าจึงมีนโยบายเพื่อที่จะแก้ไข อย่างไรก็ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งตนกังวลต่อการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งต้องทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในผลเลือกตั้งและการเลือกตั้งมีความชอบธรรม อีกทั้งการใช้เงินซื้อเสียง ตนมองว่าทำให้ไม่ได้ผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย 

“ที่ผ่านมาการเมืองมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลใหม่คือความคาดหวังของประชาชน ส่วนที่ขณะนี้การหาเสียงโค้งสุดท้ายพบการแย่งเสียงแยกขั้วนั้น ผมมองว่าเป็นธรรมดา แต่ขออย่าให้เกิดความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งนั้นแก้ปัญหาไม่ได้” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้าในการจับมือร่วมรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้หารือหรือคุยกับใคร แต่พรรคพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถือว่าได้รับฉันทามติจากประชาชน และตามประเพณีการเมืองพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันหนึ่งควรได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ดังนั้นตนจึงต้องการสร้างความเชื่อมั่น และความชอบธรรมทางการเมืองตามกติกา

“เมื่อพรรคที่ชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งเท่ากับได้รับฉันทามติจากประชาชน  จึงควรได้รับสิทธิในการฟอร์มรัฐบาล และรวบรวมเสียงที่เพียงพอตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นความสะดวกต่อการจัดตั้งรัฐบาล ยกเว้นพรรคที่หนึ่งรวบรวมเสียงได้ไม่ถึงครึ่งบ้านเมืองจะเกิดทางตันไม่ได้ ต้องให้พรรคที่ได้เสียงลำดับถัดไปดำเนินการ ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ผ่านมา” นายสุวัจน์ กล่าว 

เมื่อถามย้ำว่าโพลตอนนี้ชี้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นอันดับหนึ่ง พรรคพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่ากระแสตามโพลเป็นเพียงแค่โพล ดังนั้นต้องรอดูผลการเลือกตั้ง แต่พรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมาเข้าได้กับทุกฝ่าย และนิยมทำงานการเมืองแบบหันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอม และใช้การพูดคุย ดังนั้นเราไม่เป็นศัตรูทางการเมืองกับท่านหนึ่งท่านใด การตัดสินใจของพรรคจะยึดถือแบบอย่างและประเพณี ใครที่มาเป็นลำดับหนึ่งควรเป็นคนที่เราสนับสนุน

นำทีม ชพก.ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โคราช ชูนโยบายเศรษฐกิจ 12 ด้าน และโคราชโนมิกส์ 

  เวลา 17.00 น. นายสุวัจน์  พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทุกเขต อาทิ  นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส. เขต1​ เบอร์ 5 นายวัชรพล​ โตมรศักดิ์​ ผู้สมัคร​ ส.ส.​ เขต​ 2​ เบอร์ 6 นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัครส.ส. เขต 4 เบอร์ 4 และวิว” เยาวภา บุรพลชัย รองโฆษกพรรคฯ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เปิดเวที่ปราศรัยใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้องประชาชนชาวโคราชมารับฟังการปราศรัยใหญ่กว่า 20,000 คน
โดยก่อนการปราศรัย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้พาคณะมากราบสักการะคุณย่าโม พระชัยเมือง และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นศิริมงคล และก่อนขึ้นเวที่ปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัครทั้ง 16 เขต ได้กล่าวทักทายพบปะพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด

โดยนายสุวัจน์ นำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” โดยเฉพาะของจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบาย”โคราชโนมิกส์”ซึ่งเป็นนโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ 1.นโยบายการสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช 2.นโยบายการสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย 3.นโยบายการสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์
4.นโยบายโคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก และ สุดท้าย 5.นโยบายการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ รวมทั้งเรื่องกัญชาเสรีไม่ 100% ต้องมีการควบคุมดูแล

ส่วนนโยบายภาพรวม”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ โดยเปิดนโยบายทั้งหมด 12 เรื่อง อันดับแรก คือ ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อจะทำให้แก๊ส ค่าไฟ ถูกลง น้ํามันแพงมาจากปัจจัย 3 อย่าง คือ 1.การกําหนดราคาน้ํามันดิบ คือ น้ํามันดิบ เราไปซื้อจากต่างประเทศอันนี้เราควบคุมไม่ได้ 2.ค่าการตลาด คือ ปั๊มน้ํามัน จะมีค่าเด็กปั้ม  มีค่าใช้จ่าย 3.ที่เราสามารถควบคุมได้คือ ค่าการกลั้น หมายความว่าโรงกลั่นในประเทศไทย มีอยู่ 6 โรงทั่วประเทศ สมัยก่อนโรงกลั่นน้ํามันในประเทศ กำไรปีประมาณ 3,000 ล้าน แต่ช่วงที่น้ำมันแพงๆ ไม่ใช่ปีนะ 6 เดือนกำไรหมื่น 5,000 ล้าน เพราะราคาที่ตั้งเป็นราคาที่เราไปอิงจากสิงคโปร์ ดังนั้น ถ้าวันนี้พรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสไปดูแลพี่น้องเราจะบอกเลิกไปอิงราคาสิงคโปร์ ต้องอิงราคาเมืองไทย
ฉะนั้น น้ำมันจะราคาถูกลงแน่นอน จะถูกลงขนาดไหนจะว่ากันอีกที แต่ไม่มีทางที่จะถึง 33-35 บาท ต้องต่ำกว่า 30 แน่นอนพอน้ำมันถูกแก๊สก็จะถูกก็จะทำให้ต้นทุนลดลง ก็จะทำให้ค่าไฟ ที่พวกเราเสียทุกวันนี้ลดลงเหมือนกัน
2. .มอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กม.3.
ท่องเที่ยวนำไทย เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า 80 ล้านล้านคน 4.หาเงินใหม่ให้ประเทศ 5 ล้านล้าน 5.ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี  6.ยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร รื้อระบบสินเชื่อ 7. Gov-Tech ราชการในมือถือ รวดเร็ว ปลอดคอร์รัปชั่น รื้อระบบราชการ 8.เกษตรสร้างชาติ เพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี-อุตสาหกรรม 9.สร้างเด็กไทย 3 ภาษา ไทย-ต่างประเทศ-Coding 10.ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1,000,000 บาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย 11.สูงวัยไฟแรง งานใหม่ 5 แสนตำแหน่ง 12.อารยสถาปัตย์ ปรับปรุงบ้าน 50,000 ให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในส่วนของจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องของการไปจับมือกับพรรคใดพรรคหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังไม่ได้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วถ้าหากพรรคการเมืองใดมีคะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ก็ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นฉันทามติ ของประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคนั้นเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและสามารถบริหารประเทศชาติ ด้วยความราบรื่น ต่อไป. 

สำหรับจุดแข็งของการหาเสียงของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น นายสุวัจน์ ย้ำว่าเราพยายามที่จะตอกย้ําความเป็นไปได้แล้วการเกิดขึ้นจริงและสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของพรรค ในเรื่องนโยบายในการที่จะสร้างงานใหม่ๆ เพื่อให้งานไปสร้างเงินให้กับพี่น้องประชาชน หรือว่านโยบายที่จะลดค่าครองชีพ ค่าไฟ ค่าน้ํามัน โดยเฉพาะเรื่องโคราชโนมิกส์ เราได้รับการขานรับซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ของภาคอีสาน เรามีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นพี่น้องแรงงานก็ไม่ต้องย้ายถิ่น และโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐสร้างไว้แล้วก็ไปเร่งให้เสร็จโดยเร็วทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นจริงๆ ก็จะชูเรื่องของนโยบายสร้างความชัดเจนของนโยบาย และจะต้องเน้นในเรื่องของการปราศรัยพบกับพี่น้องประชาชน ให้มากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ทราบได้ความชัดเจนมากขึ้น

 

 

หน้าแรก » การเมือง