ประธานสภาพัฒนาเยาวชนกทม.ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ขอให้ยืนเคียงข้างประชาชนต่อไป ย้ำที่ผ่านมาเยาวชนได้รับโอกาสจากนายกฯมาโดยตลอด ทำให้ประทับใจแม้ความคิดเห็นจะไม่ตรงกันบ้างในหลายเรื่อง แต่นายกฯ มีคำอธิบายที่มีเหตุผลเสมอมา 

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.30 น. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายณัฐกานต์ สังขดี ประธานสภาพัฒนาเยาวชนกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นจดหมายจากคนรุ่นใหม่ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้กำลังใจขอให้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนต่อไป โดยมี นายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน

นายณัฐกานต์ สังขดี ประธานสภาพัฒนาเยาวชนกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้ติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรี และคณะมาตลอดระยะเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยที่เป็นที่รักอย่างสุดกำลังความสามารถ และไม่เลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมาสภาพัฒนาเยาวชนกรุงเทพมหานคร ได้รับโอกาสและความเมตตาจากนายกรัฐมนตรีและคณะในหลายโอกาส  ได้มอบโอกาสและให้คำปรึกษา เรื่อง การทำงานด้านเยาวชนตลอดเสมอมา และคอยติดตามผลงาน และให้กำลังใจในการทำงานด้านเยาวชนมาโดยตลอด และยังให้โอกาสได้พบท่านนายกรัฐมนตรีในห้องรับรอง เมื่อครั้งเวทีปราศรัยครั้งสุดท้ายที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และยังได้ตนไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

ทั้งนี้  ตนประทับใจนายกรัฐมนตรีเสมอมา แม้ความคิดเห็นจะไม่ตรงกันบ้างในหลายๆเรื่อง แต่ท่านนายกฯ ก็มีคำอธิบายที่มีเหตุและผลให้เสมอ ทำให้ตนได้เข้าใจในมุมมองของผู้นำประเทศ และยินดีที่จะช่วยงานท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ การจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียมันอาจเป็นเรื่องยาก แต่ตนเชื่อว่าท่านนายกฯ อยากทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเสือตัวที่ 1 ของเอเชีย ซึ่ง9oเชื่อว่าท่านนายกฯ ทำได้ ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อ

"ผมขอให้ท่านนายกรัฐมนตรียืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างประชาชนที่รัก และผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้ท่านนายกรัฐมนตรี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกำลังกายและกำลังใจเต็มเปี่ยม เพื่อที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต่อไป"นายณัฐกานต์ กล่าว

"เอกนัฏ" ยัน รทสช.จะยังไม่เปลี่ยนตัว หัวหน้า-เลขาพรรค

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวก่อนร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรคฯ และพบกับว่าที่ 36 ส.ส. ว่า จะมีการพูดคุยถอดบทเรียนผลเลือกตั้ง แต่จะยังไม่มีการกำหนดแนวทางใด พร้อมยืนยันว่าวันนี้ทางพรรครู้สึกดีและขอบคุณที่ได้รับคะแนนเสียงเกือบ 5 ล้านเสียง หลังตั้งพรรคมาลงเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งจะมีการย้ำให้ลูกพรรคดำเนินการตามแนวทางของเราต่อไป

เมื่อถามว่า พรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ต่อหรือไม่ เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต นายเอกนัฏ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่กับพรรค เพราะเป็นประธานยุทธศาสตร์ฯ รวมถึงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

ส่วนการทำงานของพรรคก็จะมีการปรับเปลี่ยนตามจังหวะเวลาอย่างเหมาะสม เพราะภูมิทัศน์การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉะนั้นเรื่องการทำงานอาจต้องเน้นการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเรื่องการสื่อสารต้องแม่นยำชัดเจน และเป็นระบบมากกว่าเดิม โดยผู้บริหารและ ส.ส.ก็จะร่วมกันออกแบบ

เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยังคงเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ ยืนยันว่า ยังเป็นคนเดิมอยู่ ซึ่งตนเห็นข่าวลือเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว และยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคในเร็ววันนี้ เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาไม่นาน โดยตนเองและนายพีระพันธุ์ ยังคงเหนียวแน่น และเชื่อว่า 4 ล้านกว่าเสียง จะเป็นต้นทุนให้พรรคไปต่อได้

เมื่อถามถึงกระแสสมการ พล.อ.ประยุทธ์ วางมือทางการเมือง และพรรคไปร่วมรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ นายเอกนัฏ ปฏิเสธว่า พรรคไม่ได้มีการพูดคุยกันเลยเพราะเราเป็นพรรค 36 ที่นั่ง ฉะนั้นการช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่เป็นภารกิจ แต่เรามีวาระ หากรัฐบาลจะแก้หรือยกเลิก ม.112 เราไม่เอาด้วย และจะไม่ยกมือให้นายกรัฐมนตรี ที่มีเจตนาจะไปแก้ไขในประเด็นดังกล่าว

นายเอกนัฏ ยังระบุกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ว่า ตนเองก็งงกับประเด็นดังกล่าว และไม่รู้ว่าข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร พร้อมมองว่าจะเป็นการปั่นกระแสเพื่อขั้วภายในพรรคไปทำไม ปั่นกระแสก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร พร้อมยืนยันด้วยว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้มีปัญหาภายใน ซึ่งจะมีก็เพียงการรีแบนด์พรรคเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าการปรับผู้บริหารขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติ จะร่วมด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรเลย และมองว่าพรรคที่ได้ 36 เสียง มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา เมื่อถามว่า หากมีการเชิญมาจะปิดประตูหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่มีเชิญเลย ไม่มีเชิญแน่นอน เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ยังหวังสมการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่หรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุอย่าไปหวังเลย มันคงเป็นไปไม่ได้เลย ฉะนั้นการจัดตั้งรัฐบาลขอให้ฟังฝ่ายโน้น ทั้งนี้ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีจะมีม็อบกดดัน ส.ว.