วันที่  30 มิถุนายน พ.ศ. 2566   ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนำพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า  แต่งงานกันจริงๆเสียที  
    
เป็นความจริงที่ก้าวไกลและเพื่อไทยมิได้รักกันมาแต่เก่าก่อน ไม่ใช่ความรักแรกพบที่แสนหวาน ซ้ำร้ายยังเคยต่อสู้แข่งขันเลือกตั้งกันมาถึง 2ครั้งคือเมื่อปี 62 และปีปัจจุบัน แต่ด้วยบุพเพสันนิวาส ภายหลังการเลือกตั้งทั้งสองครั้งบ่าวสาวคู่นี้ก็ต้องมาจูบปากกันจนได้
     
ตำแหน่งประธานสภาที่งอแงกันในขณะนี้ ความจริงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก เมื่อเทียบกับการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนเพื่อสถาปนาประชาธิปไตยแทนรัฐบาลเผด็จการที่สืบทอดอำนาจครองประเทศไทยมาเกือบ 10ปี สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คงจะคล้ายๆกับการที่เจ้าสาวปรารภกับเจ้าบ่าวว่า หลังแต่งงานแล้วเราทำงานกันคนละหน้าที่นะ คุณอยู่ทำเนียบเป็นนายกฯ ส่วนดิฉันจะอยู่สภาเป็นประธานฯ แต่หากเจ้าบ่าวบอกว่า อย่าเลยเธออยู่บ้านดีกว่า เพราะเราบ้านใหญ่มีงานเยอะแยะที่ต้องปัดกวาด แถมมีบริษัทอีกมากมายที่ต้องดูแล(กระทรวง) ฉันจะเอาน้องชายมาเป็นประธานฯเอง ด้วยธรรมเนียมไทยมาแต่โบราณ ฝ่ายชายถือเป็นช้างเท้าหน้า ฝ่ายหญิงก็คงจำเป็นต้องยอม เพราะเสียตัวให้เขาแล้วนี่ (MOU)
     
สำหรับเจ้าสาว(คุณหมอชลน่าน)ก็ต้องเห็นใจท่านบ้าง เพราะบ้านใหญ่มีบริวารมากมาย เลือกตั้ง 6 ครั้งในรอบ 20ปีชนะได้จำนวนสส.มากที่สุดทุกครั้ง แถมยามตกระกำลำบากถูกปฎิวัติ 2 ครั้ง ครอบครัวก็สามารถอยู่ยั้งยืนยงกอดคอกัน ไม่ได้แตกสลายแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อมีเสียงพร่ำบ่นถึงศักดิ์ศรีที่เคยมีในอดีต หัวหน้าพรรคก็ต้องพูดอะไรออกไปบ้างเป็นธรรมดา และก็ไม่ได้พูดอะไรมากเพียงรายงานว่า เคยเสนอไปแต่ไม่ตอบมาสักที ก็เท่านั้นเอง ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวก็อย่าไปติไปโกรธเลย ยังไงเราก็ตกลงเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วมิใช่หรือ
     
ขณะนี้ก็ดูเหมือนจะมีข่าวดีปรากฏออกมาว่า คู่บ่าวสาวเขาตกลงกันได้แล้ว เพราะเจ้าสาวดันทำท่าเหมือนจะท้องด้วยเจอกันบ่อยครั้งเหลือเกินทั้งกลางวันกลางคืน(ขยันจัง) ญาติโยมของทั้งสองฝ่ายก็ให้ไปเตรียมของกำนัลสร้อยมือสร้อยคอไว้ห้อยคอหลาน(รัฐบาล)ก็แล้วกัน ยิ่งกว่านั้นก็ขอทำนายไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ในอนาคตยังจะมีเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวจะต้องแต่งงานกันอีกนับสิบคู่(รัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยในกระทรวงเดียวกัน) เพราะดันไปรับดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนมาได้พอดี
     
ส่วนนักเลงท้ายซอยที่ประกาศจะเสนอเจ้าบ่าวตัวกลมๆมาแข่ง ก็ขอให้เลิกคิดได้แล้ว คุณพิธาเขาดูยังไงก็หล่อกว่าแน่นอน สุดท้ายนี้ ด้วยยังไม่แน่ใจว่า จะไปร่วมงานในพิธีมงคลสมรสได้หรือไม่ ก็ขอฝากบทประพันธ์ที่ผมเองก็ไม่ทราบว่า ใครเขียน แต่ก็ขออนุญาตเอามาเผยแพร่ เพื่อเตือนสติ ดังนี้

น้ำใสเกินไป ก็ไร้ปลา
ตรงไปตรงมา ก็ไร้เพื่อน
ฟ้าแจ้งเกินไป ก็ไร้เดือน
ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก็ไร้ใจ
ลุ่มหลงเกินไป ก็หนักใจ
คิดมากเกินไป ก็หนักตน
อ่อนน้อมถ่อมไป ก็เสียเชิง
ตะเพิดเปิดเปิง ก็เสียผล
เข้มงวดเกินไป ก็เสียคน
ยอมให้ทุกหน ก็เสียการ

"พิธา"ประกาศลั่นพิษณุโลก "ปดิพัทธ์ สันติภาดา" แคนดิเดต"ประธานสภาฯ"ตัวจริง

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบประชาชนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลกพรรคก้าวไกล  โดยกล่าวบนรถหาเสียง "วันนี้มาเยี่ยมคนสองแควด้วยคนสองแคน คนหนึ่งแคนดิเดตนายก คนหนึ่งแคนดิเดตประธานสภาฯ" 

"นายพิธา " กล่าวว่า ใครบอกเป็นการเมืองสองแพ่ง แต่มองเป็นการเมืองสองแคว ที่มีสายน้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำน่าน และ แม่น้ำแควน้อย และไหลไปด้วยกันได้เปรียบเสมือนการเมืองใหม่และการเมืองเก่าที่มาบรรจบกันและจะเดินหน้าไปต่อได้"  พร้อมกันนี้ นายพิธา ยังได้ขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดพิษณุโลก ด้วยว่า ขอให้สนับสนุนตนเป็นนายกรัฐมนตรี