"ณัฐพงษ์" หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธข่าวดีลแลก 8 เก้าอี้รัฐมนตรี ย้ำพรรคยืนจุดยืนฝ่ายค้าน ใช้ 143 เสียงแก้วิกฤติการเมือง และจะตัดสินใจเลือกนายกฯ ในที่ประชุมพรรควันจันทร์นี้ ขณะนี้ยังไม่ฟันธงโหวตใครนั่งนายกฯ 

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 15.40 น. ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีมีการดีลทางการเมืองว่า พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แลกตำแหน่งรัฐมนตรี 8 เก้าอี้ ว่าไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าพรรคไม่มีการเจรจาใต้โต๊ะหรือเบื้องหลังใด ๆ ทั้งสิ้น

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนยึดมั่นในวัตถุประสงค์เดิมคือใช้เสียง 143 เสียงของพรรคเพื่อผ่าทางตันทางการเมือง ไม่ได้มีเป้าหมายเข้าร่วมรัฐบาลหรือแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีแต่อย่างใด โดยระบุว่า “หากไม่มีกรรมการบริหารหรือผู้แทนพรรคเข้ามาพูดคุยอย่างเป็นทางการ พรรคจะไม่รับข้อเสนอหรือการเจรจาใด ๆ เพราะต้องมีการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนและโปร่งใส”

หัวหน้าพรรคประชาชนย้ำว่า พรรคยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี และจะนำประเด็นนี้เข้าสู่การพิจารณาอย่างเป็นทางการในการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ ช่วงบ่าย โดยจะพิจารณาตามข้อเสนอทีโออาร์ของพรรคที่เปิดไว้สำหรับทุกพรรคการเมืองที่ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ และจำเป็นต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน

ต่อคำถามถึงกระแสข่าวการเจรจาลับกับพรรคเพื่อไทย นายณัฐพงษ์ชี้แจงว่า พรรคยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการ และเชื่อว่าข่าวลักษณะดังกล่าวเป็นเพียง “ข่าวโคมลอย” เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง พร้อมระบุว่าพรรคยังไม่มีธงล่วงหน้าว่าจะเลือกขั้วการเมืองใด ทุกพรรคมีโอกาสเท่าเทียม ตราบใดที่ยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน

ในประเด็นกระแสสังคมที่ไม่ต้องการให้โหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นายณัฐพงษ์ย้ำว่า พรรคจะยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ไม่ได้มองที่ความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมือง และย้ำว่า “หากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาชนจะไม่สามารถโหวตให้ได้อย่างแน่นอน”

สำหรับท่าทีต่อพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ระบุว่า การพูดคุยที่เกิดขึ้นเป็นการหารือในเชิงให้เกียรติกันระหว่างนักการเมือง แต่การจะเชื่อมั่นได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหากรัฐบาลใดใช้อำนาจไม่เหมาะสมหรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พรรคประชาชนพร้อมใช้เสียงในสภายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

นอกจากนี้ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” ได้ยื่นภาพโฉนดที่ดินเขากระโดงให้นายณัฐพงษ์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนว่าการโหวตให้นายอนุทิน อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีดังกล่าว

ในส่วนของกรอบเวลาการยุบสภา นายณัฐพงษ์เปิดเผยว่า พรรคได้หารือกันแล้วและเห็นว่ากรอบ 4 เดือนหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยยังต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 10 กันยายนนี้ ว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง ทั้งนี้หากการเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลสามารถยุบสภาได้เร็วกว่ากำหนดก็ไม่ใช่ปัญหา

หัวหน้าพรรคประชาชนยังกล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภาเพื่อสร้างอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทย ว่า หากเพื่อไทยมีความจริงใจคงยุบสภาไปนานแล้วตามข้อเสนอของพรรคประชาชน แต่การยื้อเวลาอาจสะท้อนถึงความต้องการควบคุมอำนาจการต่อรองกับพรรคร่วม พร้อมทั้งย้ำว่า พรรคจะพิจารณาเฉพาะการเจรจาที่ทำโดยตรงกับผู้บริหารพรรคเท่านั้น

นายณัฐพงษ์สรุปว่า พรรคประชาชนยังไม่ตัดสินใจว่าจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือภูมิใจไทย แต่จะยึดเป้าหมายสูงสุดคือการหาทางออกประเทศ โดยใช้เสียงของพรรคเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่และคืนอำนาจให้ประชาชน ทั้งนี้พรรคจะได้ข้อสรุปหลังการประชุมในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน และคาดว่าจะมีการลงนาม MOU สนับสนุนการโหวตนายกฯ กับพรรคที่ตอบรับเงื่อนไขภายใน 2–3 วัน ก่อนเข้าสู่การโหวตในวันที่ 3 กันยายนนี้