"นลินี ทวีสิน" ย้ำไทยและอาเซียนควรเป็นกลาง ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เน้นการค้าขายเพื่อเติบโตร่วมกัน พร้อมส่งเสริมบทบาทผู้ประกอบการรุ่นใหม่  

 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566     นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติ เรื่อง TDR 2023 A Vision for ASEAN’s Inclusive Growth” จัดขึ้นโดย ITD ร่วมกับองค์กรเครือข่าย อาทิ UNESCAP และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอรายงานการค้าและการพัฒนาโลก 2023 รวมถึงยังมีการแลกเปลี่ยนความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เพื่อเสนอทางออกในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจการค้าโลกที่ตกต่ำ 

นางนลินีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมนานาชาติดังกล่าวยังได้มีการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นโอกาสและความท้าทายของการเติบโตที่ครอบคลุมในบริบทของนโยบายการค้าและการพัฒนาของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีผู้เข้าร่วมการเสวนาจากทั้งองค์กรระหว่างประเทศและภาควิชาการ อาทิ คุณดามพ์ สุคนธทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ITD คุณ Yann Duval หัวหน้าฝ่ายนโยบายการค้าและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และ ผศ.ดร. สินีนาฏ เสริมชีพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงตนในฐานะตัวแทนของภาครัฐ โดยผู้เข้าร่วมการเสวนาได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองที่น่าสนใจหลายประเด็น อาทิ ความกังวลถึงเครื่องมือเชิงนโยบายใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน หรือ CBAM ซึ่งกฎระเบียบเหล่านี้กระทบต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว การให้ความสำคัญกับการค้าภายในอาเซียน (Intra-ASEAN trade) ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ในขณะที่ประเทศขนาดใหญ่อื่น ๆ นอกภูมิภาคกำลังประสบปัญหา รวมถึงการหาตลาดใหม่ ๆ เช่น ตลาดในภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมถึงรูปแบบการค้าใหม่ ๆ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 

"ในโอกาสนี้ ตนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่ไทยเป็นประเทศที่เปิดกว้างพร้อมรับการค้าและการลงทุนจากทุกประเทศ โดยไทยจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือเลือกข้างในความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่จะมุ่งเน้นไปในประเด็นการค้าเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ในประเด็น การเข้าร่วมเจรจากรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ IPEF นั้น ตนได้ให้ความเห็นว่าการเข้าไปมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในกรอบความร่วมมือ IPEF จะทำให้ไทยไม่เสียโอกาสในการหารือกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาคที่มีประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและเป็นมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทย รวมทั้งทำให้ไทยสามารถเข้าไปต่อรองและรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและได้รับผลกระทบน้อยที่สุดด้วย นอกจากนี้ ตนยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต"  นางนลินี กล่าวทิ้งท้าย