พ่อเมืองร้อยเอ็ด ติดตามการน้อมนำแนวพระราชดำริสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ไปสู่การปฏิบัติ ลงพื้นที่ “แปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ บ้านสำราญ” พร้อมชื่นชมเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแบบ ขับเคลื่อนการเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติ

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567    นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ แปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ บ้านสำราญ หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบการขับเคลื่อนขยายผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยมี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ บ้านสำราญ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้ขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานในครัวเรือน ได้บริโภคผักปลอดสารพิษ สามารถแบ่งปันให้กับคนในชุมชน อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว ขับเคลื่อนขยายผลต่อยอดสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ยกระดับทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

“จากการลงพื้นที่ดังกล่าว แปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ บ้านสำราญ เริ่มต้นมาจากการพัฒนาพื้นที่โพนหว้างามสู่กิจกรรมการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรแบบบูรณาการที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้ขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยการสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ป่ายูคาลิปตัสโพนหว้างาม ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้าน ร่วมกับเทศบาลตำบลเมืองบัว ขุดลอกหนองน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับเพาะปลูก พร้อมทั้งจัดหาแหล่งพลังงานสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ 71 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่หนองน้ำ 15 ไร่ พื้นที่ปลูกผัก 10 ไร่ และพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์หลักของชุมชน 20 ไร่ เพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิก ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีข้าวพันธุ์คุณภาพดี ส่งเสริมกิจกรรมการปลูกผักสวนครัว โดยในช่วงเริ่มแรกมีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการกว่า 60 ครัวเรือน ก่อนที่จะมีการจัดตั้ง “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสำราญ” พร้อมสร้างพื้นที่จำหน่ายผักให้กับสมาชิก รวมถึงจัดหาพ่อค้าคนกลางมารับซื้อจากสวนโดยตรง โดยมีพืชเด่นคือ การปลูกปทุมมา มีการบริหารจัดการการปลูกพืชอย่างเป็นระบบและตรงตามความต้องการของตลาดในพื้นที่” นายทรงพลฯ กล่าวในช่วงต้น

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต่ออีกว่า แปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ บ้านสำราญ มีการปลูกผักสวนเพื่อบริโภคและจำหน่าย มากกว่า 30 ชนิด อาทิ สลัดกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค หอมแบ่ง หอมแดง พริก มะเขือ ข้าวโพด ผักชี ผักชีลาว กวางตุ้ง คะน้า กะหล่ำปลี บรอกโคลี ถั่วฝักยาว แมงลัก โหระพา กะเพรา ข่า ตะไคร้ มะเขือเทศราชินี มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศเชอรี่ บวบ ผักบุ้ง กะหล่ำดอก ขิง ข่า ตะไคร้ ฟัก แฟง แตงกวา ฟักทอง นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชประเภทดอก อาทิ ดาวเรือง คอสมอส ปลูกประดับ และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร อาทิ ดอกปทุมมา สีขาว สีแดง สีชมพู ที่เป็นความต้องการของตลาดในอำเภอเกษตรวิสัย นอกจากนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดมีแผนในการส่งเสริมให้มีการลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และสนับสนุน การผลิต การแปรรูป และการจำหน่าย ในรูปแบบออนไลน์ ออฟไลน์ และการบรรจุภัณฑ์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ขยายตลาด เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ส่งเสริม และยกระดับเศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ด 

“ขอชื่นชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ หมู่ที่ 3 บ้านสำราญ ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย ที่ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยสร้างต้นแบบที่ดีให้กับคนในพื้นที่ สามารถต่อยอดขยายผลพัฒนาพื้นที่ให้เกิดผลประโยชน์กับคนในชุมชน อีกทั้งช่วยสร้างคลังอาหารให้กับชุมชน โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนหลักการพึ่งพาตนเอง ประชาชนทุกคนมีกินมีใช้ เกิดความรักความสามัคคี เกิดความเข้มแข็งของคนในชุมชน ประชาชนทุกคนมีความสุข นำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ซึ่งเรามุ่งมั่นขยายสิ่งที่ดีไปทุกพื้นที่ในจังหวัดร้อยเอ็ดให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดความยั่งยืน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร ปลูกผักสวนครัวเพื่อบริโภคผักปลอดภัยจากสารเคมี เป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในครัวเรือน อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน" นายทรงพลฯ กล่าวในช่วงท้าย

#WorldSoilDay #วันดินโลก 
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI 
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife 
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน  
#SDGsforAll #ChangeforGood