วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568 02:18 น.

การเมือง

"ทักษิณ" เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ไหว้ศาลหลักเมืองก่อนบินเชียงใหม่

วันพฤหัสบดี ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567, 09.48 น.

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567  นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย เดินทางมาสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 05.19น.โดยออกเดินทางจากบ้านพักจันทร์ส่องหล้านั่งรถเบนซ์ สีดำทะเบียน ภษ 1414 กทม.ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิดที่จ.เชียงใหม่

นายทักษิณ แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน ตามความเชื่อเพื่อเสริมดวงเรื่องการงานและทรัพย์สิน มีการสวมเฝือกที่คอ และแต่ไม่มีเฝือกแขน สามารถเดินได้ด้วยตัวเองเข้าสักการะศาลหลักเมืององค์จำลองและศาลหลักเมืององค์จริง สักการะเทพารักษ์ ทั้ง 5 บนอาคารเทพารักษ์ และเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิดใช้เวลาราว 26นาที

จากนั้นนายทักษิณเดินทางกลับออกจากศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เวลา 05.45 น.โดยได้หันมายกมือรับไหว้สื่อมวลชนที่มารอรายงานข่าว จากนั้นเดินทางไปขึ้นครื่องบินส่วนตัวที่ท่าอากาศยานผู้โดยสารส่วนบุคคล หรือ เอ็มเจ็ต สนามบินดอนเมืองไปจังหวัดเชียงใหม่ 

ทั้งมีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.49 น. ของวันที่ 13 มี.ค. 2567 ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร นายทักษิณ ได้เดินทางเข้ากราบสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังได้รับการพักโทษกลับไปอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ นายทักษิณ เดินทางมาในชุดสูทสีดำ ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใส่เฝือกที่คอและไหล่เหมือนตอนออกจากโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมมีผู้ติดตาม 4-5 คน ท่าทางการเดินปกติเหมือนคนอายุ 70 ปีเดิน ไม่ได้ดูแข็งแรงมาก แต่ก็ไม่ได้ดูป่วยจนเดินไม่ได้

ถึงเชียงใหม่ควง "อุ๊งอิ๊ง" ชมอุทยานราชพฤกษ์ 

ทั้งนี้เวลา 09.28 น. นายทักษิณ เดินทางถึงบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะบุตรสาว นายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย และหลานสาว ลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. มาต้อนรับด้วย ก่อนที่นายทักษิณ เดินทางต่อด้วยรถยนต์รถเลกซัสสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร มาชมพืชสวนโลก ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่นายทักษิณ ได้ผลักดันสมัยเป็นนายกฯ ก่อนถูกรัฐประหาร ปี 2549

โดยทันทีที่ นายทักษิณ มาถึงนายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย นำพระพุทธรูปพุทธบารมี วัดทับคล้อ หน้าตัก 9 นิ้ว มามอบให้นายทักษิณ พร้อมกันนี้นายทักษิณยังกล่าวทักทายคนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นที่สังเกตุว่าการมาครั้งนี้ นายทักษิณ มีสีหน้าสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคราม กางเกงยีนส์ รองเท้าลำลอง และเดินกุมมือกับ น.ส.แพทองธาร ตลอดเวลา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามาเชียงใหม่ครั้งนี้ เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ ตอบเพียงสั้นๆว่า เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะที่เดินทางมาร่วมกับนายทักษิณ ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยตลอดการเดินทางของนายทักษิณ มีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายทักษิณ ยังสวมเฝือกอ่อนที่คอ

ทั้งนี้ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาให้การต้อนรับนายทักษิณ พร้อมด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนั้นคณะขึ้นรถกอล์ฟไปด้านอุทยานหลวงฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่ครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้นัดรวมตัวเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้บริเวณพืชสวนโลกมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาที่จุดดังกล่าวประปราย โดยเป็นคนเสื้อแดงจากจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ มาชูป้ายสีแดงรูปนายทักษิณ พร้อมข้อความนายกฯในดวงใจ และใส่เสื้อที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายทักษิณ รวมทั้งยังมีการถือกระเป๋าผ้าสกรีนรูปนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมลายเซ็นต์

ด้านนางสำเนียง คงพลปาน ตัวแทนกลุ่มเสื้อแดง เปิดเผยว่า มาให้กำลังใจนายทักษิณ นายกฯในดวงใจ เป็นที่รักและเป็นนายกฯที่ดีที่สุด ที่ผ่านมามีผลงานที่ชัดเจน ประเทศชาติประชาชนมีกินมีอยู่ทุกคน ได้สัมผัสชัดเจน และในวันที่ 15 มี.ค. จะไปรวมตัวที่วัดโรงธรรมสามัคคีด้วย ส่วนที่มีกระแสข่าวคนเสื้อแดงบางส่วนเปลี่ยนใจนั้น ขอยืนยันว่า เลือดเปลี่ยนสีเมื่อไหร่เปลี่ยนใจเมื่อนั้น

"ภูมิธรรม" อาการ "ทักษิณ" ดีขึ้น-ไม่มีสส.ไปพบที่เชียงใหม่
 
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อาการท่านทักษิณดีขึ้น ก็เป็นธรรมดาที่อยากจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปไหว้บรรพบุรุษ สุสานของพ่อแม่ ก็เป็นธรรมดาของคนไทย เมื่อกลับมาก็อยากจะรับสิ่งที่เป็นมงคล การเข้าพบท่านสมเด็จพระสังฆราชก็เป็นเรื่องที่สมควรท่านก็น่าจะให้พร เพื่อจะได้เป็นมงคลกับตัวเอง และการไหว้ศาลหลักเมืองก็เรื่องปกติของผู้นำเมื่อมีโอกาสก็ไปไหว้ การที่ท่านคิดถึงสองสิ่งนี้ก่อน ก็เป็นการสะท้อนว่าท่านคำนึงถึงศาสนาอย่างเต็มที่ และความเมตตาของพระมหากษัตริย์

และการเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ก็เข้าใจว่าคนที่รักท่านก็มีเยอะ คงมาเยี่ยมเยียนท่านก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องอื่นอยากให้มองว่าเป็นเรื่องของคนที่จากบ้านไป 17 ปี กลับมาแล้วก็อยากกลับมาหาสิ่งที่เป็นมงคลกลับมาเยี่ยมบรรพบุรุษ เป็นการระลึกถึงบุญคุณของครอบครัวที่ดูแลท่านมาอย่างดีเป็นเรื่องธรรมดา

และที่มีกระแสข่าวว่า สส.จะมีการลาประชุมสภาเพื่อเข้าไปพบนายทักษิณนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงไม่เพราะโดยหลักการทุกคนต้องมีหน้าที่ อาจจะมีบ้างบางส่วนที่ไปดูงานของตัวเองเพราะเป็นช่วงที่ท่านนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่แต่ก็เป็นคนละทริปกันไม่เกี่ยวกัน ท่านทักษิณก็ไปพักอยู่ที่บ้าน ท่านนายกไปท่านดูแลในพื้นที่แต่ก็มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับสส.แต่โดยส่วนใหญ่ก็ไปแล้วรีบกลับมาทำหน้าที่ แต่เชื่อว่าไม่มีใครไปเพราะทุกคนมีหน้าที่

รวมถึงตนเองด้วยติดภารกิจเช่นกันหากไม่ติดภารกิจก็อยากไปด้วย ทั้งโอกาสที่จะไปพบท่านทักษิณ และร่วมงานกับท่านนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้เรามีภารกิจซึ่งต่างคนก็แยกกันทำภารกิจของตัวเอง งานมีเยอะบางทีก็ไม่ต้องรวมกันแยกกันไปทำบ้าง หากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันก็ไปดู โดยนายกฯได้พูดกับตนเองอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องตาม ให้ไปทำงานของตนเองหากมีปัญหาอะไรที่เกี่ยวข้องกัน

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง