วันอาทิตย์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 05:10 น.

การเมือง

"เศรษฐา" ลุยภาคอีสานคุยขอจัดการปัญหาหนี้นอกระบบ - ยาเสพติด

วันอาทิตย์ ที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 13.03 น.

นายกฯ ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ปัญหาภัยแล้ง จ.มหาสารคาม กำชับทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานให้เกิดผลจริง เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน 

วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปตรวจราชการจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5 – 6 พ.ค. พร้อมด้วย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะโดยเวลา 10.50 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อด้วยโตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร มาถึงที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ตำบลปะหลาน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามประเด็นยาเสพติดและหนี้นอกระบบ มีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่ พร้อมด้วย สส. มหาสารคาม ให้การต้อนรับ ประกอบด้วย นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย เขต 1 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ พรรคเพื่อไทย เขต 2 นายลัทธชัย โชคชัยวัฒนาการ พรรคภูมิใจไทย เขต 3 นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ พรรคเพื่อไทย เขต 4 นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ พรรคเพื่อไทย เขต 5 และ นายรัฐ คลังแสง พรรคเพื่อไทย เขต 6 จากนั้นนายกฯรับฟังบรรยายสรุปการแก้ปัญหายาเสพติด สถานการณ์ภัยแล้ง และปัญหาหนี้นอกระบบ โดย นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวรายงานว่า จังหวัดมหาสารคาม ถือเป็นสะดืออีสาน มีประชากร 937,000 คน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมปีละ 67,000 ล้านบาทเศษ รายได้ประชากรต่อหัว ต่อคน ต่อปี 88,000 บาทเศษ เป็นลำดับที่ 8 ของภาคอีสานและเป็นลำดับที่ 57 ของประเทศ มีพื้นที่ทางการเกษตรรวม 2,420,000 ไร่ คิดเป็น 73% ของพื้นที่ จังหวัดมีพื้นที่ในเขตชลประทานเพียง 580,000 ไร่หรือร้อยละ 24 ของพื้นที่ทำการเกษตร พืชเศรษฐกิจหลักสำคัญคือข้าวนาปี มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน โดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก

นายวิบูรณ์ กล่าวว่า ส่วนการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดมหาสารคามดำเนินตามยุทธศาสตร์ภาครัฐ โดยจัดทำยุทธการ เมืองปลอดภัยจากยาเสพติดครอบคลุมทุกกระบวนการ ตั้งแต่เรื่องการเฝ้าระวังการแพร่กระจายยาเสพติด เอกซเรย์ทุกหมู่บ้านชุมชน ผ่านกลไกกวาดบ้านล้างบ้านทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ได้ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติดที่อยู่แนวชายแดน ที่จะใช้จังหวัดมหาสารคามเป็นทางผ่านส่งต่อที่อื่น ส่วนการแก้ไขหนี้นอกระบบขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเจรจาไปทั้งหมดแล้ว 77% และกลางเดือนนี้จะทำได้ครบถ้วน 100%

จากนั้นนายกฯกล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้ได้มีการลงพื้นที่และมีการนำรัฐมนตรีมาด้วย เพื่อต้องการดูปัญหาจริงๆของจังหวัดมหาสารคามหากดูจากตัวเลขแล้วยังน่าเป็นห่วง เพราะรายได้ต่อหัวของประชากรยังต่ำอยู่เป็นลำดับที่ 57 ของประเทศซึ่งถือว่าต่ำอยู่มาก เรายังต้องพึ่งภาคเกษตรค่อนข้างเยอะ และภาคเกษตรจะดีได้ต้องมีน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการบริหารจัดการ ซึ่งตัวเลขชัดเจนผู้ว่าราชการจังหวัดบอกปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากธรรมชาติยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในแง่การทำการเกษตร จึงได้มีการพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมป้องกันสาธารณภัย ให้ดูแลเรื่องน้ำ ขนส่งน้ำบริการประชาชน ซ่อมบำรุงการประปาให้กับประชาชน เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้

นอกจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกับทางกองทัพโดยทหารราชพัฒนาให้มีการมาดูแลในแง่ของรถบรรทุกน้ำของทหารที่มีทั่วประเทศให้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรดูแลเรื่องน้ำให้เพียงพอในทุกมิติ

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่หยั่งลึกในสังคมไทย ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ ตัวเลขที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำเสนอ ยอดมูลค่าหนี้ 300 ล้าน จริงๆต้องยอมรับว่ายังต่ำอยู่ จำนวนลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เข้ามาลงทะเบียนในระบบมีประมาณไม่ถึง 3,000 คน เราต้องยอมรับก่อน ถึงแม้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ข้าราชการในอำเภอ เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะนำทุกคนเข้าสู่ระบบให้มีการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ให้ได้ ซึ่งต้องยอมรับแม้จะทำงานหนักอย่างไรก็ตามทีตัวเลขยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทราบดีตัวเลขที่มีทั้งระบบ หนี้นอกระบบ มีเป็นแสนล้าน แต่ก็ขอให้กำลังใจและช่วยกันทำงานให้หนักขึ้น พยายามสนับสนุนให้ลูกหนี้เข้ามาแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ฝ่ายความมั่นคง ต้องดูแลเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่ข่มขู่ไม่ยอมเข้าสู่ระบบ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วต้องยอมรับว่าปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ปัญหายาเสพติด จริงๆแล้วส่วนหนึ่งอาจเป็นส่วนใหญ่เลยก็ได้ เกิดขึ้นจากการที่พี่น้องของเราพยายามทำงานเหน็ดเหนื่อย หาเงินมาเลี้ยงชีพทำเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมและผิดกฎหมาย หากเราแก้ที่รากฐานของปัญหาหนี้นอกระบบได้ ปัญหาต่างๆก็จะลดน้อยลง

นายเศรษฐา กล่าวว่า และปัญหาใหญ่ที่เรามาดูแลในวันนี้คือปัญหายาเสพติด ปฏิเสธไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของภาคอีสาน ตนเรียนไปแล้วเรื่องใหญ่เกิดจากการทำงานใช้หนี้ไม่เพียงพอ การบังคับใช้กฎหมายตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมาจัดการกัน วันนี้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาด้วย แม่ทัพภาคและผู้บังคับการภาค 4 เรามากันครบ

“จึงอยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเรื่องนี้ ดูแลประชาชนให้เหมาะสม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม จัดทำบัญชีผู้ค้ายาเสพติดแบ่งเป็นขนาดใหญ่กลาง เล็ก ระบุกำหนดกรอบการปราบปราม ต้องไม่เกิน 90 วันตั้งแต่วันนี้ และให้ถือว่าผู้ที่มียาเสพติดในครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องมีการแบ่งแยกระหว่างผู้เสพและผู้ค้า และให้รายงานต่อสำนักนายกรัฐมนตรีทุกเดือน ขณะที่ของกลางจะต้องเร่งทำลายเผา อย่าให้มีการเคลื่อนย้าย ทุกอย่างต้องโปร่งใสถูกต้อง และขอให้มีการตั้งศูนย์บำบัดทุกหน่วยราชการที่สามารถทำได้ เช่น ค่ายทหาร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาร่วมดูแล ขณะเดียวกันตำรวจ ทหาร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำงานอย่างบูรณาการ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้ามาช่วยกันปราบปรามดูแล และขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ปกครอง เข้ามาดูแลระเบียบการจัดการเรื่องความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขด้วย ขอให้เราเคร่งครัดปฏิบัติและคำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเพราะเรื่องยาเสพติดถือเป็นเรื่องใหญ่”นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ขบวนการยึดทรัพย์ต้องทำให้เร็ว สกัดตามชายแดนไม่ให้มียาเสพติดรั่วเข้ามา จัดการกับผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด เรื่องของการเอาชุมชนเข้ามามีส่วนแก้ไขปัญหา ดึงหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมร่วมกันบูรณาการทุกคนต้องช่วยกัน ขอย้ำอีกครั้งถนนนี้อีกไกลเชื่อว่าเรามีแผนงานที่ชัดเจน แต่ปัญหาก็ยังอยู่ ราคายาบ้าก็ยังไม่ขึ้น และยังมีมาก เราต้องทำงานกันให้หนักมากขึ้น
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง