"สุระ" วอนนักวิเคราะห์การเมือง หยุดเชื่อมโยง ผลคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ 2 คดีใหญ่สิงหาคม ส่งผลกระทบการเมือง ชี้ ปรับครม. เป็นอำนาจนายกฯมองถึงความเหมาะสม ย้ำ พลังบูรพา ไม่เคยได้รับการติดต่อก้าวไกล เตรียมผ่องถ่ายสส. ขอทุกฝ่ายอย่าเพิ่งคาดการณ์ล่วงหน้า ทำสับสน ขอรอผลตัดสินอย่างเป็นทางการพร้อมกัน    

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังบูรพา กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิพากษาคดีสำคัญทางการเมือง 2 คดีใหญ่ วันที่ 7ส.ค. คดียุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกล วันที่ 14ส.ค. คดีของนายเศรษฐา ทวีสิน การแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนทำให้บางฝ่ายพยายามเชื่อมโยงหลังจากการตัดสินคดีจะเกิด ผลกระทบทางการเมืองตามมา โดยเฉพาะ การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) มองว่า จะมีการปรับเอาบางคน ในพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคออก และ นำบางพรรคมาร่วมรัฐบาลแทน จนนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธ ถึงกระแสข่าวดังกล่าวไปแล้ว อำนาจการปรับครม.เป็นของนายกฯ เพื่อความเหมาะสมในการทำงาน และการบริหารประเทศ แก้ปัญหาให้ประชาชน วันนี้เมื่อยังไม่มีความชัดเจน จึงไม่อยากให้มีการคาดการณ์ไปก่อน จนทำให้เกิดความสับสน ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมและความเชื่อมั่นรัฐบาลได้  

สำหรับคดีของพรรคก้าวไกล ก็เช่นกัน มีนักวิเคราะห์ทางการเมือง มองในมุมต่างๆ ถ้าเกิดผลบวก จะดำเนินกิจกรรมการเมืองแบบหนึ่ง ถ้าเป็นลบจะมีสส. สมาชิกพรรคย้ายไปพรรคอื่น จำนวนมาก ในเมื่อคำตัดสินยังไม่ออกมา จึงไม่อยากให้คาดการณ์ล่วงหน้า แต่ควรรอฟังผลคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญพร้อมกันในวันที่ 7ส.ค. น่าจะดีกว่า 

เมื่อถามถึงกระแสข่าว แกนนำพรรคก้าวไกล บางคนยอมรับว่า ได้ติดต่อพรรคเล็กเอาไว้หลายพรรค หากเกิดอุบัติเหตุการณ์เมือง พรรคถูกยุบ เพื่อเตรียมรองรับสส.ของพรรคเอาไว้ นายสุระกล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล ที่จะประเมินหรือหาทางรองรับเอาไว้ สส.ก้าวไกล จะย้ายไปพรรคไหน จำนวนเท่าไหร่ ใครจะเป็นหัวหน้า ผู้นำพรรคคนต่อไป เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ตนไม่ขอก้าวล่วง ในส่วนของพรรคพลังบูรพา ขอยืนยันว่า ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก บุคคลระดับแกนนำทั้งในและนอกพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด พรรคพลังบูรพา ยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามแนวคิด ตามอุดมการณ์ของพรรคต่อไป สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า