วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:51 น.

การเมือง

"ณพลเดช" ลูกศิษย์วัดสัมพันธวงศ์ วอนอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง "อดีตพระพรหมเมธี"

วันเสาร์ ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568, 18.50 น.

"ณพลเดช" ลูกศิษย์วัดสัมพันธวงศ์ วอนอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง"อดีตพระพรหมเมธี" ตามหลักกฎหมายว่าด้วย Principle of Equality หลังแต่งตั้งพระพรหมสิทธิรักษาการเจ้าคณะภาค11 

17 ม.ค. 2568 ดร.ณพลเดช มณีลังกา  ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา และที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันมหาปีติอีกวันหนึ่งนะครับ ระยะเวลาเกือบ 7 ปี ที่ได้เห็นพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งถูกจองจำและถูกใส่ร้ายต่างๆ นานา จนต้องถูกถอนสมณศักดิ์ ถูกถอดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ถูกถอดจากกรรมการมหาเถรสมาคม และถูกถอดจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค ถึงวันนี้ถือว่าได้ตำแหน่งเดิมกลับคืนมา

จากที่ผมเคยดำรงตำแหน่งเป็นอนุกรรมาธิการพุทธศาสนา สภาผู้แทนราษฎร ได้ศึกษาข้อกฎหมายและทำการโต้แย้ง ประเด็นที่ถกเถียงกันหลักๆ คือ สละสมณเพศ แปลว่า สึกหรือไม่สึก สุดท้ายผลก็คือไม่สึก ต้องบอกว่าวันนี้ฟ้าเปิดครับ เป็นวันที่ได้ตำแหน่งเดิมกลับมาครบโดยสมบูรณ์ ตามหลักของกฎหมาย หลักการกลับคืนสู่ฐานะเดิม (Restitutio in integrum) รวมถึงหลักความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (Causation)

สำหรับ Restitutio คำนี้มาจากภาษาละติน มีความหมายทางกฎหมายที่สำคัญ โดยหมายถึง:
- การทำให้คู่กรณีกลับคืนสู่สถานะเดิมก่อนที่จะมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
- เป็นหลักการทางกฎหมายที่มุ่งเยียวยาความเสียหายโดยการทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมเสมือนไม่มีการกระทำนั้นเกิดขึ้น
- กฎนี้ยังครอบถึงกฎหมายระหว่างประเทศ หมายถึงการเยียวยาความเสียหายโดยการทำให้รัฐที่ถูกละเมิดกลับคืนสู่สถานะเดิมก่อนที่จะมีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตามในพิธีมอบตราตั้งรักษาการเจ้าคณะภาค 11 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ท่านพูดชัดว่าตั้งใจว่าจะคืนตำแหน่งเจ้าคณะภาคให้แก่พระพรหมสิทธิในปลายปี แต่มีเหตุการเจ้าคณะภาค 11 มรณะก่อนจึงเร่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ ผมได้ยินเสียงหนาหูของพุทธบริษัทกล่าวถึงว่า ควรชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการเสียโอกาส ซึ่งลำดับการเป็นพระราชาคณะชั้นสมเด็จควรจะเป็นลำดับของท่านก่อน อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ฟ้าประทานครับ ซึ่งผมคิดว่าฟ้ารู้ฟ้าเห็นครับ

อีกประเด็นหนึ่งคือกรณีอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธัมมจารี) แห่งวัดสัมพันธวงศ์ ธรรมยุติกนิกาย ต้องขอเรียนว่าบ้านผมอยู่เยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ คนเยาวราชต่างอึดอัดในเรื่องนี้ครับ เพราะเห็นว่าจากกรณีพระพรหมดิลกและพระพรหมสิทธิ ซึ่งถูกใส่ร้ายด้วยคดีเงินทอนวัด เหมือนกรณีวัดสัมพันธวงศ์ที่ถูกอ้างว่ายักยอกเงินห้าล้านบาทในการสร้างหอสมุด ซึ่งศาลได้พิพากษาเห็นชัดแล้วว่าเป็นกรณีที่ไม่มีความผิด

ผมเห็นว่าควรจะดำเนินตามหลักความเสมอภาค (Principle of Equality) ซึ่งได้รับการบัญญัติไว้อย่างชัดแจ้งในมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญว่า "บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน" หากประเทศไทยใช้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ หรือระบบกฎหมายจารีตประเพณี ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยผู้พิพากษาผ่านการตัดสินคดีความของศาล อดีตพระพรหมเมธีก็ต้องถือว่าพ้นมลทินหลังการตัดสินของพระพรหมสิทธิ

ขณะนี้ทราบว่าเรื่องอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ผมในฐานะที่เป็นตัวแทนของคนเยาวราชและคนสัมพันธวงศ์ ต้องขอวิงวอนครับ วงการพุทธศาสนาเสียหายมากแล้วครับ การนี้ควรมี "คำสั่งไม่ฟ้อง" ให้กับอดีตพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ จะถือเป็นของขวัญให้กับคนไทยในปีมงคลนี้ด้วย 
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง