“ประชาธิปัตย์” จัด เดโมแครต ฟอรั่ม ครั้งที่ 4 “วาระน้ำเพื่อประชาชน”  มุ่งยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายใหญ่ “ทุกประปาต้องดื่มได้”  

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568  พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดสัมมนา เดโมแครต ฟอรั่ม ครั้งที่ 4 “วาระน้ำเพื่อประชาชน : ก้าวใหม่ประปาหมู่บ้าน” ขึ้นที่ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การดำริของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งงานดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาเป็นประธาน ตลอดจนมีตัวแทนจากหน่วยภาครัฐหลายหน่วยงาน อาทิ กรมอนามัย กรมทรัพยากรน้ำ ตลอดจน สส. อดีต สส. ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก ดำเนินรายการโดย คุณพลอยทะเล  ลักษมีแสงจันทร์  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

โดยนายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรคฯ ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาว่า งานวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สำหรับนำไปสู่การจัดทำนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และจัดทำโครงการน้ำเพื่อประชาชนตลอดทั้งประปาหมู่บ้านเพื่อประชาชนให้ประสบผลสำเร็จ 

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานจัดงานเดโมแครต ฟอรัม (Democrat Forum) กล่าวรายงานว่า งานดังกล่าว ดร.เฉลิมชัย หัวหน้าพรรค ต้องการเปลี่ยนแปลงให้พรรคประชาธิปัตย์ไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความก้าวหน้าและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมุ่งหวังที่จะนำประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่าของทุกคน ที่ผ่านมาพรรคฯ ได้มีการจัด เดโมแครต ฟอรัม มาแล้ว 3 ครั้ง สำหรับการที่หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำ เนื่องจากการที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน กำกับดูแลกระทรวง ทส. และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รมช.กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำกับดูแลกรมอนามัย เล็งเห็นความสำคัญของน้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้มาก แต่การตรวจวิเคราะห์เพื่อประเมินคุณภาพยังไม่ครอบคลุม ดังนั้นจึงเห็นว่าหากสามารถยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านได้ จะทำให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนกว่า 6 หมื่นหมู่บ้านดีขึ้น 

สำหรับนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และรมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยการเข้าถึงน้ำสะอาดต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ 73% โดยไทยติดอันดับรั้งท้ายที่มีเพียง 4% ที่ใช้น้ำสะอาด การสัมมนาครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการระดมความคิดจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปเป็นข้อสรุปสำหรับพัฒนานโยบายพรรคฯ เพื่อให้ทุกประปาหมู่บ้านต้องสามารถดื่มได้ เพราะการแก้ไขปัญหาน้ำสะอาดเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์มุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากการใช้น้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อสุขภาพและอนาคตที่ดีกว่า

ทั้งนี้ นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และที่ปรึกษา รมว. ทส. ได้กล่าวสรุปการสัมมนาว่า ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่าน้ำประปาจะต้องดื่มได้ในทุกน้ำประปา จากแนวคิดของตัวแทนจากกรมอนามัย ที่ต้องการเห็นการบริหารจัดการน้ำประปาในประเทศด้วยการสร้างความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กรมอนามัย กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ตลอดจนกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น และองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศ ขณะที่ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากตัวแทนจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งทำให้เห็นงานของกรมที่มีสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้ง 12 เขต เพื่อให้บริการน้ำใต้ดินที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศสามารถติดต่อประสานงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนได้

สำหรับปีงบ 2568 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทส. มีแผนงานโครงการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่ออุปโภคบริโภค เพิ่มเติมอีก 143 แห่ง สามารถเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ถึง 14.716 ล้าน ลบ.เมตรต่อปี ประชาชนจะได้ประโยชน์ 27,600 ครัวเรือน มีโครงการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้น โดยมีโครงการก่อสร้างระบบอีก 300 แห่ง นอกจากนั้นยังมีการเตรียมความพร้อมเครื่องจักร ที่พร้อมใช้งานสำหรับการขุดเจาะน้ำบาดาล ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่ ชุดซ่อมแซมประปา ชุดจ่ายน้ำอีกจำนวนมาก รวมทั้งโครงการเสริมศักยภาพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประเมินคุณภาพน้ำให้กับ อปท. ทั่วประเทศ 520 แห่ง 

“ทรัพยากรน้ำ ถึงแม้จะมีมากแค่ไหน ก็มีจำกัด จึงต้องใช้อย่างรู้คุณค่า ไม่ว่าจะดึงขึ้นมาใช้เพื่ออุปโภค บริโภค หรือเพื่อการเกษตรก็ตาม จึงอยากให้ช่วยกันตระหนัก” นายอภิชาต กล่าว 
สำหรับ นายสมบัติ ยะสินธุ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะ กมธ. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้กล่าวถึงเรื่องการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญ ก็ถือเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นต่อการบริหารจัดการน้ำประปาด้วยเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นอกจากต้องใช้บุคลากรที่มีความเหมาะสมแล้ว ยังต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจ และมีองค์ความรู้ ตลอดจนจะต้องมีการบริหารจัดการงบประมาณอีกด้วย 

ด้านนายอลงกรณ์ ได้กล่าวเสริมอีกว่า ด้วยสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ คือแม่พระธรณีบีบมวยผม ดังนั้นการนำเสนอแนวทางนโยบายจากการเสวนาครั้งนี้ ทำให้เกิดเป้าหมายสูงสุดของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคคือ ทุกประปาต้องดื่มได้  ส่วนเป้าหมายระยะกลางคือ ทุกประปาต้องสะอาด และน้ำประปาทุกครัวเรือน ดังนั้นจากการที่พรรคฯ ได้เคยเสนอ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ดังนั้นในครั้งนี้พรรคฯ จะได้เตรียมยกร่าง พ.ร.บ. น้ำสะอาด โดยมีหลักการที่สอดคล้องกันในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับตอบโจทย์ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้นำไปสู่ความสมดุลอย่างยั่งยืนต่อไป 

ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการเสวนา ได้มีการเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นจากผู้ร่วมเสวนา และผู้เข้าร่วมรับฟังอย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้การสัมมนาเดโมแครต ฟอรั่ม ครั้งที่ 4 “วาระน้ำเพื่อประชาชน” จะได้เป็นจุดเริ่มต้นที่พรรคฯ จะได้ลงมือปฏิบัติโดยเร็วต่อไป