"ชูศักดิ์"  รมต.ประจำสำนักนายกฯ เผยการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องทำประชามติช่วยสร้างความชัดเจน เชื่อหากให้ทำ 3 ครั้งจะหาเจ้าภาพยาก หวังเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญภายในสมัยนี้

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้อง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. และคำร้องของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัซชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่เสนอญัตติให้วินิจฉัยว่า ทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ศาลฯ รับไว้แล้วถือเป็นเรื่องดี ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล สาเหตุที่ศาลฯ รับไว้พิจารณาตนคิดว่า การยื่นครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วไม่มีการบรรจุในระเบียบวาระ และไม่มีการพิจารณาในสภาฯ แต่ครั้งนี้บรรจุในระเบียบวาระแล้ว และมีความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว การรับไว้วินิจฉัยจึงเป็นเรื่องดี

ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญให้จัดทำความเห็นส่งต่อศาลภายใน 15 วันนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด จึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะส่งอะไร ทั้งนี้คิดว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยแล้ว ต่อไปการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเกิดความชัดเจน เพราะจากที่เห็นในสภาฯ ที่ผ่านมา ฝ่ายหนึ่งก็ไม่เข้าประชุม ฝ่ายหนึ่งเดินหนี  โดยสาเหตุที่เขาทำอย่างนั้นเพราะเชื่อว่าการ แก้รัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า ทำได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้เกิดอุปสรรคทำให้วนอยู่แบบนี้ ซึ่งการที่ศาลฯ รับไว้ และให้เราพิจารณาว่าจะทำประชามติสองหรือสามครั้ง เพื่อที่เราจะได้เดินต่อถูก จึงถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ตนหวังว่าจะมีข้อยุติ
 
ส่วนตัวหวังไว้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำประชามติสองครั้ง เพื่อที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จภายในสมัยนี้  แต่หากศาลฯ วินิจฉัยให้ทำสามครั้ง ก็ต้องสามครั้ง แต่ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ เพราะจะหาเจ้าภาพไม่เจอ ส่วน ครม.จะเป็นเจ้าภาพก็ไม่ได้ เพราะเป็นร่างฯ ของพรรคการเมือง ตนจึงหวังให้ทำประชามติสองครั้งก็จะไปได้