วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 04:31 น.

การเมือง

"รมว.กห.เยอรมัน" ปฏิเสธขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทย ยกเหตุอียูห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้จีน

วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.51 น.

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศไทย  ได้หารือทวิภาคีกับ นาย Boris Pistorius รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยนายภูมิธรรม ได้สอบถามว่าสามารถขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ที่ทางประเทศไทยได้จัดหาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งทาง รมว.กห. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ตอบว่า ที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องมาจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ได้มีข้อห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความขอบคุณสำหรับการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

อย่างไรก็ตามนายภูมิธรรม ได้กล่าวชื่นชมเยอรมนีที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม United Nations Peacekeeping Ministerial Meeting ครั้งที่ 6 (UNPKM 2025) และแสดงความยินดีต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเยอรมนี ภายใต้การนำของ นาย Friedrich Merz พร้อมทั้งยินดีที่ รมว.กห.เยอรมนียังคงดำรงตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางนโยบายด้านกลาโหม

ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเยอรมนี ที่มีมายาวนานถึง 163 ปี และมีการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่เยอรมนีเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในสหภาพยุโรป

ในการประชุม UNPKM 2025 ไทยได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้อาณัติของสหประชาชาติ และมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพไทยให้มีความพร้อมและมาตรฐานสากล ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมภายใต้โครงการความร่วมมือไตรภาคี (Triangular Partnership Programme: TPP) ในห้วงปี 70-71 และหวังที่จะพัฒนาความร่วมมือกับเยอรมนีในการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพกำลังพลในภารกิจรักษาสันติภาพ

ความร่วมมือทางทหารระหว่างไทยและเยอรมนีมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการแลกเปลี่ยนการเยือน การหารือแลกเปลี่ยนเฉพาะด้าน การสนับสนุนที่นั่งศึกษา และการจัดหายุทโธปกรณ์ ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสำเร็จในการประชุมโครงการความร่วมมือระดับทวิภาคีระหว่าง กห. กับ กห.เยอรมนี (Bilateral Annual Cooperation Programme Talks) 2568 และการประชุมหารือด้านความมั่นคงเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ กห. - กห.เยอรมนี (Politico - Military Staff Talks) ครั้งที่ 7

ไทยขอบคุณเยอรมนีที่สนับสนุนกำลังพลของไทยเข้ารับการศึกษาวิชาทหารในเยอรมนี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและความเป็นมืออาชีพทางทหารของกำลังพลไทย

นอกจากนี้ ไทยยังประสงค์ที่จะแสวงหาความร่วมมือกับเยอรมนีในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ โดยเฉพาะด้านไซเบอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย

เยอรมนีได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียนด้วยดีเสมอมา และไทยยินดีที่เยอรมนีได้รับความเห็นชอบจาก รมว.กห.อาเซียน ให้เป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และด้านความมั่นคงไซเบอร์ในกรอบ ADMM-Plus ไทยยังมีความประสงค์ที่จะขอรับการสนับสนุนความร่วมมือด้านการแพทย์ทหารระหว่างศูนย์แพทย์ทหารนานาชาติของเยอรมนี กับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนของไทย

กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ เพื่อพึ่งพาตนเองและเป็นหลักประกันด้านความมั่นคง รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอกชน โดยเฉพาะใน 4 ผลิตภัณฑ์เป้าหมาย ได้แก่ ยานพาหนะเพื่อความมั่นคง อุตสาหกรรมต่อเรือ อากาศยานไร้คนขับ และอาวุธและกระสุน ไทยจึงขอให้เยอรมนีพิจารณาความเป็นไปได้ในการที่ไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเชิญชวนเยอรมนีเข้าร่วมงาน Defense & Security 2025

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง