วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:42 น.

การเมือง

"อย่ายอมให้การเมืองแบบทุนและอำนาจนิยม กัดกร่อนประเทศไทย" "สนธิรัตน์"โพสต์แรกหลังลาออกจาก "พปชร." 

วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 10.13 น.

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2568 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เป็นครั้งแรกภายหลังลาออกจากพรรค พปชร. ระบุว่า อย่ายอมให้การเมืองแบบทุนและอำนาจนิยม กัดกร่อนประเทศไทย เปิดทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ หรืออ่านข่าวออนไลน์วันนี้ ต้องเจอข่าวที่ทำให้หดหู่ใจเสมอ ข่าวเศรษฐกิจก็มีแต่ตัวเลขที่ทำให้ท้อแท้ ข่าวสังคมก็เจอกับภาพการปล้นชิง โกงหลอกลวง หันมาที่ข่าวการเมืองก็ต้องเจอกับข่าวมาตรฐานทางการเมืองเชิงประชาธิปไตยของนักการเมือง การเน้นทุนในการเลือกตั้ง จนให้ความรู้สึกเหมือนว่า วันนี้ “ประชาธิปไตยซื้อได้”

ประเทศไทยวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น วงจรการเมืองและสังคมไทยเดินมาถึงวันนี้ได้อย่างไร วงจรที่คนที่เราไม่มั่นใจว่าดีถูกยอมรับ คนดีมีบทบาทน้อยลง และเงินใต้โต๊ะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่สำคัญไปกว่านั้น การทุจริตในการเลือกตั้งเป็นที่รับรู้โดยทั่วไป แต่ไม่มีใครถูกจัดการอย่างจริงจัง ในอดีตการทำอะไรพวกนี้ต้องทำกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ มาวันนี้การเมืองแบบทุนนิยมไม่ได้ซ่อนอยู่หลังฉากอีกแล้ว แต่เขาทำกันอย่างเป็นเรื่องธรรมดา และยิ่งนานวัน มันก็หยั่งรากลึกลงไปในโครงสร้างของประเทศอย่างน่ากลัว

แต่ก่อนเราเคยคิดว่า "การซื้อสิทธิขายเสียง" เป็นปัญหาเฉพาะในบางพื้นที่ แต่วันนี้ มันกลับมาแรงกว่าเดิม แพร่หลายทั้งในเมือง ในชนบท และในโลกออนไลน์ จนมันถูกทำให้ดูปกติ แต่สิ่งที่ผมกลัวมาก ๆ และมันกำลังเกิดขึ้น คือ ประชาชนจำนวนมากเริ่ม “เฉยชา” กับการทุจริต เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมือง ที่ไม่รู้สึกว่ามีผลเสียกับตัวเอง

ผมยังถามตัวเองเสมอว่าประเทศไทยมาถึงจุดที่นักวิเคราะห์การเมืองหลายคน รวมถึงสื่อต่างๆสรุปตรงกันว่า “การเมืองวันนี้เป็นเรื่องของกระแสกับกระสุน” ทั้งที่เรื่อง “กระสุน” หรือ “การซื้อเสียง” ไม่ควรเป็นสิ่งที่เรายอมรับได้ในทางการเมือง

การเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่เราสู้กันมาหลายปีควรเป็นเรื่องของการแข่งกันผลิตนโยบาย นำเสนออุดมการณ์ ตัวบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหาทางยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนแข่งกัน แต่วันนี้กลายเป็นเรื่องของตัวเลข ค่าหัว ค่าตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่อนทำลายประชาธิปไตยอย่างยิ่ง

วันนี้ปัญหาการคอร์รัปชันในทางการเมืองของประเทศไทยไปไกลกว่าอดีตมากแล้ว เราชินชากับคนซื้อเสียงยังไม่พอ แต่เรายังพบอีกว่าเงินที่นำไปซื้อเสียงมาจากการใช้อำนาจรัฐ และบางทีก็อาจจะเป็นเงินสีเทาที่บ่อนทำลายสังคมและลูกหลานของเราด้วย สมการการเมืองไทยแบบคอร์รัปชันวันนี้คือ [การเมืองซื้อเสียง +นักธุรกิจสีเทา] และลองจินตนาการกันสิครับว่า ถ้าคนเหล่านี้มีอำนาจในการบริหารประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเราจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอนาคต คิดว่าเราต้องคุยกันเรื่องนี้กันให้จริงจังมากกว่านี้ได้แล้ว เพราะนอกจากประชาชนจะเริ่มนิ่งเฉย หน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องพวกนี้ก็มีข้อสงสัย ถึงการทำหน้าที่

เราอาจเปลี่ยนแปลงทั้งระบบไม่ได้ในชั่วข้ามคืน แต่เราสามารถเริ่มเปลี่ยน “ทัศนคติ” และ “ความอดทน” ของตัวเองได้ทันทีครับ เช่นเราต้องไม่ทน และบอยคอตนักการเมืองทุนนิยม อย่าอดทนกับระบอบการเมืองที่ขาด“หลักการ” ความล่มสลายของหลักการในบ้านเมือง เกิดจากประชาชนและองค์กรต่างๆยอมรับต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และที่น่ากลัวคือเห็นว่าเป็นปกติ

บางคนอาจบอกว่าเรื่องพวกนี้แก้ไม่ได้หรอก แต่ผมอยากให้คิดใหม่ครับว่า “เรื่องพวกนี้แก้ได้” เสียงของประชาชน แต่เมื่อรวมกันมากพอ มันสามารถโค่นระบบเหล่านี้ได้ครับ การกลับมากระตุกจิตสำนึกคนไทยอย่างจริงจังคือประเด็นสำคัญของเรา ที่ต้องเริ่มก่อนที่จะช้าไปกว่านี้

วันนี้เราทุกคนต้องไม่ยอมให้ “การโกง” กลายเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองของไทย อย่าปล่อยให้การเมืองแบบเงาของคอร์รัปชันกัดกร่อนประเทศไทยไปมากกว่านี้

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง