วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:21 น.

การเมือง

“โฆษกสธ.” โต้  ‘สว.วีระพันธ์’  ปมมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอกรณีชั้น 14  ไล่ให้กลับไปศึกษาพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมให้ถ่องแท้

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.18 น.

“โฆษกสธ.” โต้  ‘สว.วีระพันธ์’  ปมมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอกรณีชั้น 14  ไล่ให้กลับไปศึกษาพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมให้ถ่องแท้  ยันรัฐมนตรี“สมศักดิ์“ ใช้อำนาจตามกฎหมาย  ไม่แทรกแซงวิชาชีพแพทย์   

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า ตามที่นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภาโพสต์ข้อความในเพจ เฟซบุ๊คเตือนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุขให้เคารพกระบวนการของแพทยสภาและรักษาเส้นแบ่งระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความเป็นอิสระของวิชาชีพแพทย์ กรณีมติแพทยสภาลงโทษแพทย์ 3 คนปมชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมิได้หวั่นไหวหรือวิตกกังวลใดๆ เพียงแต่แปลกใจว่า นายวีระพันธ์กลัวอะไรนักหนา หรือมีมิจฉาทิฐิอะไรบางอย่างตกค้างอยู่ในจิตใจเหมือนคนกลุ่มหนึ่งที่เกือบ 20 ปี ยังไม่เลิกโกรธเกลียดอาฆาตแค้นนายทักษิณ ชินวัตรหรือไม่  

  น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า หลังจากนายสมศักดิ์ได้รับทราบมติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ 1 คนโดนตักเตือน อีก 2 คนโดนพักใบอนุญาตวิชาชีพเวชกรรม ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 จำนวน 10 คน มีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หากคณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายก็ให้กระทำได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการทั้ง 10 คน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาคัดเลือกมาล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีเกียรติประวัติที่เชื่อถือได้ จึงมั่นใจว่าความเห็นที่คณะกรรมการชุดนี้จะเสนอมาได้ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ มีข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อมประกอบว่าการกระทำของ 3 แพทย์ผิดจริยธรรมหรือไม่ กระบวนการสอบข้อเท็จจริงและบทลงโทษมีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด จากนั้นนายสมศักดิ์จะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมที่สุด 

  โฆษกสธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวต่อไปว่า นายวีระพันธ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาน่าจะรู้เรื่องกฎหมายดีว่าพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 25 ซึ่งบัญญัติว่า รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภามีเวลา 15 วันในการพิจารณามติของแพทยสภา ซึ่งมี 2 แนวทาง 1. เห็นชอบกับมติแพทยสภา 2. ยับยั้งหรือวีโต้มติแพทยสภา โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผล หากพ้น 15 วัน รมว.สาธารณสุขไม่ดำเนินการใดๆ มติของแพทยสภาจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้า รมว.สาธารณสุขใช้สิทธิ์วีโต้ แพทยสภาจะต้องพิจารณาใหม่ หากยืนยันมติเดิม จะต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด จากกระบวนการดังกล่าว นายวีระพันธ์ควรจะรับรู้ว่า นายสมศักดิ์ไม่อาจดำเนินการอะไรตามใจชอบของตัวเองได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายซึ่งออกในสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บังคับใช้มา 40 กว่าปีแล้ว  

  เปรียบได้กับศาลยุติธรรมซึ่งมี 3 ศาล คือชั้นต้น อุทธรณ์และฎีกา ส่วนศาลปกครองก็มีชั้นต้นและชั้นสูง การพิพากษาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อจะได้อำนวยความยุติธรรมให้คู่ความ การสอบสวนในหน่วยรัฐก็เช่นกัน มีทั้งสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัย ผลการสอบออกมา ผู้ถูกลงโทษก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้และนำไปฟ้องต่อศาลปกครอง ได้เช่นกัน  การวีโต้หรือไม่วีโต้ของ  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ นายวีระพันธ์ไม่สมควรมาเดาและกล่าวหาให้ร้ายนายสมศักดิ์แทรกแซงแพทยสภา ต่างฝ่ายต่างก็ทำไปตามอำนาจหน้าที่ นายวีระพันธ์เป็นสมาชิกวุฒิสภาก็ทำหน้าที่ตามขอบเขตหน้าที่ของตนเองตามกฎหมายไป และควรต้องรู้ว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อนและมีการถกเถียงในสังคม ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย  

  “ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนและกระบวนการ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังทำไปตามอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้  และควรยอมรับฟังความเห็นต่างหรือเหตุผลอีกฝ่าย ไม่ควรพยายามจะเอาแต่ใจตัวเอง รอเวลาไม่กี่วัน ทุกฝ่ายควรเข้าใจและยอมรับในบทบาทหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ไม่ควรชี้นำสังคมไปในทางที่ตนเองเชื่อ”น.ส.ตรีชฎากล่าว
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง