ปลัด มท. เทรนนิ่งข้าราชการ นปร. รุ่นที่ 17 ก่อนไปฝึกปฏิบัติราชการส่วนภูมิภาค เน้นย้ำสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี เรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ยุทธศาสตร์การทำงาน เพื่อสนับสนุนงานผู้ว่าราชการจังหวัดในการพัฒนางานบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน 

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568  นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พบปะและให้โอวาทข้าราชการภายใต้โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 17 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการไปฝึกปฏิบัติราชการในหน่วยงานภาครัฐส่วนภูมิภาค โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ดูแล นปร. ได้แก่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ นายปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา และนายอดุลย์ โชตินสากรณ์ และข้าราชการในโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 17 จำนวน 27 คน ร่วมรับฟัง

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ กล่าวว่า ตนมีความคุ้นเคยกับข้าราชการภายใต้โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) เป็นอย่างดี ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เมื่อปี 2560 โดยได้มีน้อง ๆ นปร. มาฝึกประสบการณ์ และถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานต่าง ๆ ด้วยดีมาตลอด และตนพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ แก่น้อง ๆ นปร. ทุกคนอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อร่วมสร้างข้าราชการรุ่นใหม่ที่เก่ง ดี และมีคุณภาพ เพื่อประโยชน์ของทางราชการและพี่น้องประชาชน

“การมาฝึกประสบการณ์ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกท่านจะได้ซึมซับภาพรวมของการบริหารราชการแผ่นดิน การแบ่งโครงสร้างการบริหารของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจำแนกออกเป็นราชการส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยทั้งสองส่วนนั้นมีขอบเขตการทำงานทั้งงานตามอำนาจหน้าที่ (Function) และงานเชิงพื้นที่ (Area) ที่เราจะต้องทำงานในฐานะผู้กำกับและผู้ประสานงานร่วมกับส่วนราชการอื่น ๆ และน้อง ๆ ทุกท่านจะได้ลงไปสัมผัสและเรียนรู้กับทุกกระบวนงาน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ ดั้งนัน การที่เราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แม้เวลามันสั้น แต่ถ้าเราอยู่ในคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการยึดหลักการทำงานแบบ “เข้าใจ เข้าถึง ก็ย่อมสามารถนำไปสู่การพัฒนาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนออาจารย์และต่อยอดการทำงานของเราได้” นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสทำความรู้จักกับผู้คน สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี เรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ยุทธศาสตร์การทำงาน เมื่อเราเข้าใจแล้ว เราก็จะสามารถรู้ว่าจุดบกพร่องของการทำงาน และขององค์กรอยู่ตรงไหน นำมาเป็นข้อเสนอแก้ไขในการพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพัฒนางานบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนได้” นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม