รองนายกรัฐมนตรีเชื่อราคาข้าวที่ขายได้สูงในยุคนั่งรมว.พาณิชย์ เป็นหลักฐานสำคัญช่วย "ยิ่งลักษณ์" พิสูจน์ความบริสุทธิ์คดีจำนำข้าว พร้อมตั้งข้อสังเกต "ข้าวเน่าจริงหรือไม่?" ยังไร้คำตอบชัด

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568   นายภูมิธรรม เวชยชัย นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะอดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่สั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดเฉพาะในส่วนของการระบายข้าว (จีทูจี) 50% เป็นจำนวน 10,028 ล้านบาท ว่า จากเดิมศาลปกครองกลาง ตัดสินไว้อยู่ที่ 3 หมื่นกว่าล้านบาท และการพิจารณาครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าน่าจะมีประเด็นที่ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ จึงมีการพิจารณาลดทอนลงมาตามดุลยพินิจของศาล ซึ่งเราต้องเคารพ

"จำเลยที่ถูกกล่าวหา ก็มีหน้าที่ทำให้ความกระจ่างเกิดขึ้นในสิ่งที่คิดว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้จะเป็นศาลฎีกาก็ตาม แต่ยังไม่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพราะฉะนั้น ก็เป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ต้องพิสูจน์ทราบ เพราะครั้งนี้มีอีกหลายเรื่อง ที่ไม่ได้นำมาเป็นกรอบในการพิจารณา" นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนในสมัยที่ตนเป็น รมว.พาณิชย์ ได้ขายข้าวได้ 200 กว่าล้านบาทนั้น ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีการประกาศแล้ว ว่าจะนำไปเป็นหลักฐานใหม่ ที่มีการพิสูจน์ว่าการขายข้าว 10 ปี ก็ยังขายได้ถึงกิโลกรัมละ 18 บาท

"ที่นำไปขายก่อนหน้านี้ ในราคาก.ก.ละ 5-6 บาท ซึ่งหากมีการพิสูจน์ทราบให้มีความชัดเจนมากขึ้น คดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะนำมาทบทวนก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า จริงๆ วิธีคิดตั้งแต่แรกมีปัญหา ในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการมองเรื่องข้าว" นายภูมิธรรม กล่าวและว่า

อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าข้อมูลในการพิจารณา กับข้อมูลที่ตนได้ทำ และการกำหนดราคาข้าวที่เปลี่ยนแปลงไป จะนำมาหักลบกันได้หรือไม่ และควรค่าที่จะมาเป็นหลักฐานใหม่ ก็น่าจะมีการทบทวนเกิดขึ้น

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า การระบายข้าวขึ้นอยู่ที่ราคา หากเป็นราคาที่ตนขายกิโลกรัมละ 18-25 บาท สามารถขายได้หลายแสนล้านบาท ซึ่งหากนำมาหักล้างสามารถชดเชยได้อยู่แล้ว ซึ่งการรับซื้อครั้งที่แล้วเชื่อว่าทั้งหมดเป็นข่าวดี การนำไปขาย 5-6 บาท ต้องเป็นข้าวที่คุณภาพแย่และเน่าจริงๆ

นายภูมิธรรม ย้ำเรื่องการระบายข้าวล็อตสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครทราบข่าวเน่าจริงหรือไม่ เพราะโกดังถูกปิดตาย ไม่มีใครเข้าไปตรวจ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อจำเลย ที่เชื่อว่าข้าวไม่เน่า และไม่มีประจักษ์พยานและยังมีข้อสงสัยว่าข้าวเน่าจริงหรือไม่

ส่วนจะมีการขอใบเสร็จการระบายข้าวเพื่อนำเป็นข้อต่อสู้ในคดีหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของทนายว่าจะสู้ประเด็นไหน ซึ่งหากตนเป็นทนาย ก็จะยังไม่พูด เพราะเป็นข้อต่อสู้ที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ