วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ รัตนมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท โดยแสดงความเห็นชอบกับร่างงบประมาณดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า ในการจัดงบประมาณครั้งนี้มีการปรับลดงบกลางลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปี 2569 ตั้งงบกลางไว้ที่ 632,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2568 ประมาณ 200,000 ล้านบาท และลดลงน้อยกว่าปี 2567 อีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้นำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในหน่วยงานกระทรวงที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยตรง

อย่างไรก็ตาม สส.นครศรีธรรมราช ได้หยิบยกประเด็นสำคัญด้านการเกษตรขึ้นมาอภิปรายว่า จากคำแถลงงบประมาณรายจ่ายที่ระบุว่า "การเกษตรสร้างมูลค่า" ด้วยหน่วยรับงบประมาณ 35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตร ลดต้นทุนการผลิต และสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ แต่ในทางกลับกัน เกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราชและหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งของตน กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักจากผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำถึงขีดสุดในรอบ 3 ปี

“วันนี้ราคาปาล์มตกต่ำ บางวันเหลือ 3 บาทกว่า วันนี้ราคา 4 บาทต่อ 1 กิโลกรัม หนักไปกว่านั้นคือโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มไม่รับซื้อผลผลิต และลานเทก็ไม่รับซื้อด้วย เพราะไม่รู้จะไปขายให้ใคร รัฐบาลก็ไม่มีหลักประกันอะไรให้กับเกษตรกร” ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ กล่าวพร้อมชี้ว่า ราคายางพาราก็อยู่ในสถานะที่ขายขาดทุน ไม่คุ้มค่าต้นทุนการผลิต

สำหรับในเรื่องนี้จึงเสนอแนะให้รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พิจารณานำนโยบาย “การประกันรายได้เกษตรกร” ของพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรัฐมนตรีซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด และพืชอื่นๆ รวม 5 ชนิด ซึ่งมีการเสนอราคาประกันรายได้เกษตรกร ปาล์มน้ำมัน ไว้ที่กิโลกรัมละ 4-5 บาท ยางแผ่นกิโลกรัมละ 60 บาท และน้ำยางสดกิโลกรัมละ 57 บาท

นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยโท ยุทธการ ยังแสดงความเป็นห่วงปัญหาและโอกาสของปาล์มน้ำมันของประเทศไทยภายใต้ยุคทรัมป์ 2.0 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันพืชในประเทศและนโยบายไบโอดีเซลของรัฐบาล หากมีการนำเข้าข้าวและถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคากับน้ำมันปาล์ม และความต้องการปาล์มน้ำมันดิบสำหรับไบโอดีเซลลดลง

ท้ายที่สุด สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาร่าง พระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอไปตั้งแต่ปี 2567 เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ซึ่งร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวในขณะนี้ยังคงค้างอยู่ในการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี