วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03:17 น.

การเมือง

"สุชาติ" ลั่นจบแล้ว! เผยแค่อาศัยบ้านเขาอยู่  ภารกิจสิ้นสุดตั้งแต่ผู้มีพระคุณไม่อยู่ 

วันอังคาร ที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 09.33 น.

เมื่อวันที่ 3   มิถุนายน 2568  ที่ท้องสนามหลวง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเคลียร์ใจกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมของ ในฐานะเลขาธิการพรรค รทสช.แล้วหรือไม่ หลังจากที่ปรากฏภาพนายสุชาติรับประทานอาหารกับกลุ่มสส.ในพรรค และมีการพูดคุยทิศทางการทำงานการเมืองในอนาคตด้วย ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ตนให้เกียรติ เพราะเราอาศัยบ้านเขาอยู่ ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคก็ว่ากันไปตามระเบียบ ตนไม่ได้ซีเรียส ขอยืนยันว่าเรื่องที่สื่อมวลชนสอบถามเรื่องที่ตนได้รับประทานอาหารร่วมกับสส.และสมาชิกพรรคบางกลุ่มก็ต้องพูดความจริง หากจะบอกว่า ตนไม่ได้พูดอะไรเลย สื่อมวลชนคงไม่เชื่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเอกนัฏระบุพร้อมที่จะรับฟังปัญหา ได้มีการนัดพูดคุยกันแล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนอาศัยพรรคเขาอยู่ ต้องยอมรับว่า พรรคก็ดีสำหรับบางคนบางกลุ่ม แต่ตนเองนั้นบริบทอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับบางกลุ่ม และต้องขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่เราต้องมองทิศทางของเราต่อไป และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ไปดีลอะไรกับใคร เพราะเรามีมารยาทพอ ไม่ใช่ตนแน่นอนที่จะไปดีลกับคนอื่น แต่ส่วนตัวเองนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะคุยกับสส.ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่เมื่อมีภาพออกมาตนก็ต้องออกมาตอบ และยืนยันว่าภาพไม่ได้หลุดมาจากตนเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายชื่อของนายสุชาติปรากฏในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบหน้า นายสุชาติกล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะไม่สามารถไปก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีได้ วันนี้ขอให้คุยกันทีละสเตป ทีละขั้นตอน และย้ำว่า การกินข้าวกับสส.นั้น กินกันมา5-6 เดือนแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และกลุ่มเพื่อนสส.นี้ก็คบกันมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งปี 62 ทั้งนี้ ขอถามว่า ตนไม่สามารถที่จะคุยกับใครได้เลยหรือ ซึ่งต้องคุยกันเรื่องทิศทางบ้านเมือง และจะไปอยู่กับพรรคไหนในอนาคตพรรคนั้นต้องทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม พรรคที่สังกัดอยู่เป็นพรรคที่มีนโยบายที่ดี แต่อาจจะไม่ตรงกับเรา และทุกท่านทราบดีว่า ตนมาอยู่ตรงนี้ตนทำเพื่อใคร และภารกิจส่วนนั้นได้จบสิ้นแล้ว ที่เข้ามารับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองตั้งแต่ปี 62 แต่ตอนนี้ไม่สามารถไปอยู่กับท่านได้แล้ว ซึ่งท่านได้ฝากไว้หลายเรื่อง เหมือนการตามผู้มีพระคุณมา แล้ววันหนึ่งต้องตัดสินใจด้วยตนเอง

ถามว่า มีความชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่า ใจไม่อยู่กับพรรคปัจจุบันแล้ว นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องมองไปข้างหน้า แต่เราจะไม่จากด้วยการทะเลาะกัน จากกันด้วยดี แต่อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ผิดข้อบังคับหรือผิดระเบียบ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เพราะตนเป็นลูกผู้ชาย ไม่ได้คิดจะทำให้เกิดปัญหาสื่อมวลชนถามก็ต้องตอบ

นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปี การไปรับประทานอาหารร่วมกันถือว่าเป็นการพูดคุยกันเฉยๆ ต้องคิดยาวๆ และต้องมองหาพรรคการเมืองที่มีแนวคิดตรงกัน เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เราสามารถไปขีดเขียนได้ ก็ต้องสนใจตรงนั้น เพราะ สส. ไม่สามารถลงอิสระได้ ต้องสังกัดพรรคการเมือง

ซักว่า ขณะนี้มีเพื่อน สส.ที่มีแนวทางตรงกันกี่คน นายสุชาติ กล่าวว่า ตนขอไม่พูดถึงคนอื่น เพราะไม่อยากให้เกิดความไม่สบายใจ หากมีอะไรตนขอรับผิดชอบคนเดียว แต่เมื่อมีความสงสัยเรื่องการรับประทานอาหารตนก็พร้อมที่จะชี้แจงต่อข้อเท็จจริง เพราะไม่สามารถโกหกสื่อมวลชนได้ หากโกหกสื่อมวลชนมวลแล้วประชาชนที่ไหนจะเชื่อ เป็นนักการเมืองต้องพูดความจริง ยอมรับว่ามีการคุยในรายละเอียดกันลึก แต่โดยมารยาทตนไม่สามารถพูดแทนคนอื่นได้ ขอย้ำว่า ตนอยู่ตรงไหนก็ทำงานเพื่อประชาชนได้

เมื่อถามถึงกรณีนายเอกนัฏระบุว่า หากไม่มีใจแล้วก็ขอให้ลาออกออกจากพรรค นายสุชาติ กล่าวว่า ก็มีคนออกมาพูดถึงข้อบังคับพรรคแล้ว หากจะทำอะไรกับตนก็ทำตามข้อบังคับพรรค ทั้งนี้ หากตนลาออก ประชาชนจะมองตนอย่างไร เพราะประชาชนเป็นคนเลือกตั้งมา หากตนทำอะไรแล้วมีปัญหาก็ว่ากันไปตามข้อบังคับพรรค ตนพร้อมที่จะยอมรับ แต่สิ่งหนึ่งตนมองว่า เขาน่าจะมองสิ่งที่ดีต่อกันที่เคยมีมา

นายสุชาติ กล่าวว่า ตนพาเพื่อนที่อยู่กันแต่ละจังหวัดมา ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนปี 62 เพราะเราเองก็เหนื่อยที่จะพาเพื่อนๆจากพรรคอื่นๆ มา การเมืองมีเข้ามีออกเป็นเรื่องปกติ และพรรคที่ตนสังกัดอยู่สมัยก่อนไม่มี สส.สักคน ขอถามว่า แล้วการเลือกตั้ง ปี 66 สส.มาจากพรรคไหน สื่อมวลชนก็รู้อยู่ เป็นการพาแม่น้ำหลายๆ สายมารวมกับแม่น้ำสายใหญ่ หากวันหนึ่งแม่น้ำสายหนึ่งที่ไม่มีน้ำการจะไปหมุนเวียนรวมกับสายอื่นก็เป็นเรื่องปกติ.
 

หน้าแรก » การเมือง