"ภูมิธรรม" ระบุไทยเริ่มต้นจากจุดยืนสันติ ย้ำไม่ควรใช้เรื่องชายแดนเป็นเครื่องมือทางการเมือง ห่วงกระทบการเจรจา 14 มิ.ย. ชี้ชะตาข้อพิพาท หากไร้ข้อสรุป ต้องลงพื้นที่จริงเพื่อพิสูจน์สิทธิในเขตพิพาท 

วันที่ 5 มิถุนายน 2565 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากองกำลังจากกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยราว 200 เมตร โดยยืนยันว่าจุดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่พิพาท หรือ “No Man's Land” ที่ยังไม่มีการแบ่งเขตอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติ และจะใช้เวทีคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ในการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

 นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุนระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แนวคิดการปิดด่านของแม่ทัพภาคที่สอง หมายความว่า หากเจรจา JBC ไม่สำเร็จการปิดด่านคือมาตรการต่อไป ซึ่งเป็นการเสนอตามลำดับขั้นตอน นอกจากนี้ ยังมีถึงกรรมการบริหารและโฆษกพรรคการเมืองบางพรรค ที่เอาข้อความไปโพสต์ทางกลุ่ม LINE ต่างๆ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดี เพราะการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จมันมีผล ซึ่งเป็นถึงกรรมการบริหารพรรคต้องระมัดระวัง ตนมองว่าพรรคฝ่ายค้านต้องมีสติ เพราะวันนี้เราต้องการความร่วมมือกัน ข้อเสนอแนะสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่เอาข้อมูลอันเป็นเท็จไปร่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย

ไม่ใช่การบุก – เป็นการละเมิดข้อตกลง
นายภูมิธรรมย้ำว่า เหตุการณ์นี้ไม่ถือเป็นการบุกแผ่นดินไทย แต่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงข้อที่ 5 ของ JBC ซึ่งกำหนดให้พื้นที่ที่ยังไม่มีการสรุปเขตแดนชัดเจนต้องเว้นว่างไว้ ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าไปตั้งฐานหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ จนกว่าจะมีข้อยุติ โดยฝ่ายไทยมีข้อมูลหลักฐานพร้อม และจะนำเสนอในที่ประชุม JBC ที่กำหนดจัดขึ้นวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ปัดข่าววางทุ่นระเบิด – ชี้ภาพเก่า
กรณีที่มีข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ นายภูมิธรรมระบุว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าไม่มีการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ใหม่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ภาพที่เผยแพร่เป็นภาพเก่าทางฝั่งขวาของปราสาทพระวิหาร ซึ่งเคยมีการฝังทุ่นไว้แต่ได้รับการควบคุมและตรวจสอบแล้ว จึงขอให้ประชาชนอย่าตกใจหรือเชื่อข่าวลือที่อาจถูกบิดเบือน

มั่นใจในกลไกระหว่างประเทศ – ทหารพร้อมตรึงกำลัง
ด้านการเตรียมรับมือสถานการณ์ นายภูมิธรรมเผยว่ากองทัพมีความพร้อมสูงสุดตั้งแต่เหตุการณ์เผาศาลาตรีมุขเมื่อปีที่ผ่านมา โดยหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น แม่ทัพภาคสามารถสั่งปิดด่านชายแดนได้ทันทีตามมาตรการที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ไทยยังเดินหน้าด้วยความสงบ หวังให้กลไกการเจรจาผ่าน JBC เป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหา

ชี้กัมพูชาเคลื่อนไหวในเวที Shangri-La ไม่ใช่เรื่องทางการ
นายภูมิธรรมยังชี้แจงกรณีที่ทหารกัมพูชาใช้เวที IISS Shangri-La Dialogue ที่ประเทศสิงคโปร์ พูดถึงเหตุปะทะกับไทยว่า ไม่ถือเป็นการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเพียงการสอบถามความเห็นระหว่างช่วงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่ใช่ถ้อยแถลงจากตัวแทนระดับรัฐ

ขออย่าดึงการเมืองปั่นกระแส – ไม่ได้หลบเลี่ยง คปท.
นายภูมิธรรมย้ำด้วยว่า การทำงานของตนในกรณีนี้ยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ไม่ควรถูกนำไปใช้โจมตีทางการเมือง พร้อมชี้แจงว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงกลุ่ม คปท. ที่จะมายื่นหนังสือที่กระทรวงกลาโหม แต่ติดภารกิจประชุมสำคัญที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน และมีทีมงานพร้อมรับหนังสือแทน

ขอสังคมใช้สติ – อย่าโหมกระแสจนเสียประโยชน์ต่อการเจรจา
ท้ายที่สุด นายภูมิธรรมกล่าวว่า ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยข้อมูลข้อเท็จจริงและการเจรจาโดยใช้เหตุผล พร้อมเตือนว่าการแชร์ข่าวปลอมหรือภาพเก่าอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและขัดขวางความพยายามเจรจาในระดับระหว่างประเทศอย่างไม่จำเป็น