เมื่อวันที่ 4  มิถุนายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการตรวจสอบและการแก้ไขปัญหา การเผยแพร่ข้อมูลที่ผลต่อข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการเผยแพร่ภาพ AI ที่เกี่ยวข้องกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ไม่เหมาะสม ว่าภาพหรือข้อความที่ปรากฏขึ้นส่วนหนึ่งเป็น AI ซึ่งถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 คือการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และส่งผลต่อความมั่นคง ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวเนื่องจากส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ฉะนั้นในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงดิจิทัลฯ สั่งการให้มีการปราบปราม ข่าวปลอม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลต่อความขัดแย้ง โดยทางกระทรวงได้สั่งปิดกั้น และหากตรวจพบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางกระทรวงจะเป็นผู้แจ้งความเนื่องจากเป็นความผิดต่อความมั่นคง ส่งผลกระทบต่อความสงบภายในประเทศ

เมื่อถามว่า หากข้อมูลมีต้นต่อมาจากประเทศกัมพูชาจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดำเนินการปิดกั้นก่อน ซึ่งอาจเป็นไปได้หากมีการแชร์มาจากต่างประเทศ ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีการทำความเข้าใจกันและกระทรวงก็มีคณะทำงาน ร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วในการต่อต้านข่าวปลอม ซึ่งต้องแจ้งไปยังกัมพูชาเพื่อให้ช่วยดูอีกช่องทางหนึ่ง

ยังไม่ทราบการโยกย้ายนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ 
นายประเสริฐ  กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่าตนเองได้โยกย้ายมาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้และ ไม่มีการพูดคุยในส่วนของพรรคเพื่อไทย และส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องการปรับครม. ซึ่งเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการบริหารประเทศต่อได้อยู่แล้วและอย่านำเรื่องปัยจัยภายนอกมาเกี่ยวข้องกับเรื่อง พร้อม ย้ำว่าเรื่องการโยกย้ายไปตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นแค่กระแสข่าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงใหญ่ที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีถ้ามีการปรับคณะรัฐมนตรี