วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568 17:50 น.

การเมือง

  “ผู้ช่วยรมต.พม.” เผย แนวคิด สธค. เปิดร้านสินค้ามือสองของหลุดจำนำ จาก โรงรับจำนำเพื่อสังคมของรัฐ หวัง ช่วยกลุ่มเปราะบาง

วันพฤหัสบดี ที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 15.19 น.

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายให้ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรมว.พม. ร่วมกันทำหน้าที่ประธานที่ประชุมกระทรวง พม. ประจำเดือนมิถุนายน 

ซึ่งภายหลังการประชุม นายธเนศพล แถลงข่าว ว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงผลการทำงานของคณะกรรมการอำนวยการสํานักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) กรณีที่ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานโรงรับจำนำเพื่อสังคมในประเทศออสเตรเลีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสถานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำของรัฐ ซึ่งมีความจำเป็นกับพี่น้องกลุ่มเปราะบาง และประชาชนทั่วไปผู้มีรายได้น้อยในขณะที่โรงรับจำนำ และร้านซื้อขายสินค้ามือสองในประเทศออสเตรเลียนั้น มีอัตราการคิดดอกเบี้ย อยู่ที่ 30% ต่อเดือน วงเงินกู้ยิ่งสูงอัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 15% ต่อเดือน โดยการรับจำนำของประเทศออสเตรเลีย ค่อนข้างจะมองในเรื่องธุรกิจ และมีเอกชนเป็นผู้ประกอบการทั้งหมด ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากรัฐบาล ต่ออายุใบอนุญาตทุกปี และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจมีความต่อเนื่อง หลังจากการรับจำนำแล้วคือหลักประกันที่เอามาจำนำ หากไม่มีการติดต่อชำระหรือส่งดอกเบี้ยเมื่อครบสามเดือนตามกำหนดเวลาซับก็จะหลุดจำนำเป็นกรรมสิทธิ์ของร้านที่รับจำนำ แล้วเขาจะนำมาเป็นสินค้าในร้านขายของมือสอง เพื่อทำกำไรอีกทอดหนึ่ง

ในขณะเดียวกันประธานและคณะกรรมการอำนวยการ สธค. ได้ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาหลักประกัน เป็นเครื่องมือของลูกค้าของสถานธนานุเคราะห์ที่เอามาจำนำและหลุดจำนำนั้น เราใช้วิธีการขายเหมาไปให้ผู้ประกอบการที่มาขอรับซื้อ ซึ่งอาจจะต้องปรับเปลี่ยนโดยหลังจากนี้ต้องพิจารณาว่า อาจจะทำเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้ามือสองในราคาถูก ซึ่งเราไม่ได้พูดเรื่องประเด็นของการสร้างผลประโยชน์ให้กับสถานธนานุเคราะห์ แต่กำลังพูดถึงเรื่องของการ ปรับรูปแบบของโรงรับจำนำ มาเป็นการนำเสนอหน้าร้าน เป็นตู้ขายสินค้า ปรับเคาน์เตอร์การรับจำนำให้อยู่ด้านใน เพื่อลดภาพการเข้ามาจำนำ และยังเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่ประกอบอาชีพที่เป็นกลุ่มเปราะบาง หรือผู้ที่มีรายได้น้อยได้ ในการที่จะหาของหลุดจำนำ ที่เป็น ของใช้ในครัวเรือน เครื่องมือช่าง หรืออุปกรณ์ที่จะนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ในราคาถูก ซึ่งถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ สธค. น่าจะเริ่มได้ภายในปีนี้

นอกจากนั้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเกิดปัญหาขึ้นขณะนี้ นโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบหมายให้ สธค. ไปพิจารณาในเรื่องของการขยายสาขาสถานธนานุเคราะห์ เพื่อให้บริการกับพี่น้องกลุ่มเปราะบาง และประชาชนทั่วไป ผู้มีรายได้น้อย ให้ครอบคลุมในพื้นที่ได้มากเพิ่มขึ้น โดยถ้าเป็นไปได้จะดำเนินการให้ครบทั่วประเทศ อย่างน้อยที่สุดในแต่ละจังหวัดจะได้มีสถานธนานุเคราะห์  ซึ่งปัจจุบัน กระทรวง พม. มีสถานธนานุเคราะห์ จำนวน 40 กว่าแห่ง นับว่าเป็นแนวทางที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเงินอย่างธนาคาร อย่างไรก็ตาม รายได้จากการเปิดร้านจำหน่ายของหลุดจำนำ หรือสิ่งของในร้านค้าที่ตั้งคือ สามารถนำมาทำกิจกรรม CSR ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ผู้ประสบปัญหาทางสังคม กลุ่มลูกค้าของสธค. ที่ประสบความยากลำบากเฉพาะหน้าให้ได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
 
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง