วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568 19:15 น.

การเมือง

"อันวาร์" สายตรงผู้นำไทย-กัมพูชาแล้ว หวังใช้หลักอาเซียนแก้ข้อพิพาทด้วยสันติวิธี

วันศุกร์ ที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 19.52 น.

ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แสดงบทบาทผู้นำอาเซียน เชื่อมั่นการเจรจาคือทางออก เรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยั้งความตึงเครียดบริเวณสามเหลี่ยมมรกต 

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568   ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่าได้ติดต่อโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีของไทยและกัมพูชา เพื่อแสดงความชื่นชมต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้นผ่านแนวทางการเจรจาและช่องทางการทูต

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบริเวณพื้นที่พิพาท “สามเหลี่ยมมรกต” โดยอันวาร์เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายดำรงท่าทีอย่างมีเหตุผล และเร่งดำเนินมาตรการลดความตึงเครียด พร้อมเดินหน้าไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสันติและรอบด้าน

“มาเลเซียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับทั้งสองประเทศอย่างลึกซึ้ง ผมขอเรียกร้องให้ประเทศไทยและกัมพูชายังคงใช้ความอดกลั้นต่อไปและใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดการเผชิญหน้า รวมถึงร่วมกันแสวงหาทางออกอย่างสันติ"

ในฐานะที่มาเลเซียดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนประจำปี 2025 ผู้นำมาเลเซียยังได้สะท้อนถึงบทบาทของอาเซียน ในฐานะเวทีในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศสมาชิก ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของอันวาร์มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างกำลังทหารของไทยและกัมพูชาบริเวณชายแดนในจังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้หลายฝ่ายในภูมิภาคเริ่มจับตาความเคลื่อนไหวด้วยความกังวลว่าเหตุการณ์อาจลุกลามได้ หากปราศจากกลไกทางการทูตที่มีประสิทธิภาพ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.38 น. วันนี้(6 มิ.ย.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Hun Manet” ว่า “เมื่อเย็นวันนี้ ผมได้โทรศัพท์พูดคุยกับท่านอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนประจำปี 2025 ผมได้แสดงความยินดีต่อท่านอันวาร์ในความสำเร็จของการจัดประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ และขอบคุณที่ท่านได้ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังดำเนินอยู่

“ผมได้ยืนยันกับท่านถึงจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชา ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้

1.กัมพูชายึดมั่นในหลักการที่จะธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือด้วยดีกับประเทศไทย

2.การตัดสินใจของกัมพูชาในการนำประเด็นปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) เพื่อแสวงหาทางออกที่สันติและถาวรสำหรับการแก้ไขความขัดแย้งตามแนวชายแดนในพื้นที่ดังกล่าว มากกว่าที่จะปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังยืดเยื้อยาวนานจนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธครั้งใหม่ได้

3.กัมพูชายังสนับสนุนความร่วมมือกับไทยในการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา(ยกเว้นพื้นที่ 4 จุดดังกล่าว) ด้วยกลไกของ JBC ไทย-กัมพูชา

4.ยังคงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศด้วยกลไกอื่นๆ ที่มีอยู่ เพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของประชาชนไทย-กัมพูชา

วันศุกร์ 6 มิถุนายน 2025

4เหล่าทัพไทยหนุนกองทัพบก ปกป้องอธิปไตย 

 ขณะที่กองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการรักษาอธิปไตยบริเวณแนวชายแดนในทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ

ซึ่งทุกเหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมสนับสนุนกองทัพบกในทุกมิติ

ในการนี้ กองทัพบก ได้รายงานต่อที่ประชุมอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าการปฏิบัติของทหารไทยเป็นไปตามกฎหมายและกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการลุกลาม โดยอิงตามแนวเส้นปฏิบัติการที่ประเทศไทยถือปฏิบัติต่อเนื่องมาโดยตลอด

ทั้งนี้ กองทัพบกได้ชี้แจงว่าเหตุปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นระหว่างทหารไทยทำการลาดตระเวนในพื้นที่ประเทศไทย และถูกฝ่ายทหารกัมพูชาเปิดฉากการยิง จึงได้ทำการยิงตอบโต้ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการชี้แจงผ่านช่องทางทางการแล้วโดยครบถ้วน อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายไทยจะดำเนินการประสานงานผ่านกลไกการเจรจาที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ แต่กลับไม่ส่งผลในการคลี่คลายสถานการณ์เท่าที่ควร อีกทั้งยังตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของทหารฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นภัยคุมคามต่อความมั่นคงของชาติ

ผู้บัญชาการทหารบก จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยยกระดับความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากจำเป็นต้องดำเนินมาตรการทางทหารเพื่อตอบโต้การรุกล้ำอธิปไตยและปกป้องคุ้มครองประชาชน

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบการเตรียมการสนับสนุนจากทุกเหล่าทัพเพื่อปกป้องประเทศ อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ การดำเนินการด้านการข่าวร่วม ด้านยุทธการร่วม ด้านส่งกำลังบำรุงร่วม และสนับสนุนข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการอื่นๆของรัฐบาล อาทิ กรมแผนที่ทหารสนับข้อมูลด้านข่าวกรองภูมิสารสนเทศ (GEOINT) ให้กับ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (ฝ่ายไทย) Joint Boundary Committee (JBC) กรมข่าวทหารทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการเตรียมชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติในประเทศไทย รวมถึงผู้ช่วยทูตทหารไทยในต่างประเทศให้รับทราบข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลและกองทัพไทยในการคลี่คลายสถานการณ์

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยืนยันจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเด็ดขาด โดยสั่งการให้ตำรวจตระเวนชายแดนและหน่วยตำรวจในพื้นที่ชายแดนเตรียมความพร้อมเต็มรูปแบบ ทั้งด้านกำลังพล อาวุธ และยุทโธปกรณ์ รวมถึงจัดทำแผนเผชิญเหตุ เพิ่มมาตรการสืบสวนหาข่าวเชิงลึก และเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการเผยแพร่ข่าวปลอม พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลต่างด้าวตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง และบูรณาการการทำงานร่วมกับกองทัพอย่างใกล้ชิดทั้งในพื้นที่แนวหน้าและแนวหลังในช่วงท้ายของการประชุมฯ

กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันอย่างชัดเจนในการสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งในด้านการวางแผน การปฏิบัติการ และการประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และเกียรติภูมิของชาติไทย พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินงานภายใต้หลักสากล การรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพของภูมิภาค

กองทัพไทยขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมทั้งขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ในการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และร่วมเป็นพลังสำคัญในการธำรงความมั่นคง สันติสุข และความสามัคคีของชาติไทยอย่างยั่งยืน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง