วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 22:05 น.

การเมือง

 นายกรัฐมนตรีนำคณะลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา - "ภูมิธรรม" เมินเขมรตั้งกรรมการร้องศาลโลก

วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 09.55 น.

นายกรัฐมนตรีนำคณะลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ "ภูมิธรรม" เมินกัมพูชาตั้ง กรรมการร้องศาลโลก 4 พื้นที่ข้อพิพาทชายแดนไทย -กัมพูชา แย้มไทยมีมาตรการรับมือ ลั่นประเทศวิกฤตต้องเตรียมรับมือ แต้ขั้นตอนกฎหมายเผยไม่ได้

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2568   นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยัง ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะเดินทาง ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยในช่วงเช้าจะเดินทางไปที่สนามบินบุรีรัมย์ อำเภอสตึก จากนั้น เดินทางต่อโดยรถยนต์ไปยังห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมในประเด็นเรื่องความมั่นคง รวมถึงมาตรการในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ไทยกัมพูชา 

โดยนายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพล กองกำลังสุรนารี อำเภอกาบเชิง  และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะออกเดินทางต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวร ช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ และพูดคุยถึงสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากสถานการณ์ชายแดนเริ่มคลี่คลายดีขึ้น
 
“การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่   พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งรับฟังข้อมูลสถานการณ์โดยตรง เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงนำไปแก้ไขปัญหาและพร้อมให้การช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมาโดยตลอดเรื่องสันติวิธี ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียชีวิต และไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบแต่จะไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย” นายจิรายุ กล่าว

กัมพูชาตั้งทีมงานพิเศษ เพื่อนำข้อพิพาทชายแดนกับไทยขึ้นศาลโลก 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่าพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งให้มีการจัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพื่อเตรียมนำข้อพิพาทชายแดนกับไทย เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ไอซีเจ ) หรือศาลโลก ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ ซึ่งกัมพูชาเรียกว่า สามเหลี่ยมมรกต และไทยเรียกว่า ช่องบก

คณะทำงานดังกล่าวมีนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน โดยคณะทำงานชุดนี้จะเป็นผู้แทนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลกัมพูชา ในการดำเนินการทุกขั้นตอนกับศาลโลก ตั้งแต่การยื่นคำร้อง การร่วมกระบวนการพิจารณาคดี ไปจนถึงการที่ศาลโลกมีคำพิพากษา และคณะทำงานจะมีหน้าที่คัดเลือกที่ปรึกษาทางกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อการต่อสู้คดีที่ศาลโลกด้วย

สำหรับสมาชิกในคณะทำงานจะแบ่งเป็นคณะทำงานย่อย 2 ชุดในด้านกฎหมายและการทูต โดยหัวหน้าคณะทำงานด้านการทูต คือนางอีต โซเฟีย อดีตเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ระหว่างปี 2557-2560

อนึ่ง นายปรัก สุคน ส่งหนังสือถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา เรียกร้องไทยร่วมกันยื่นเรื่องต่อศาลโลก โดยยืนยันว่า เป็นทางออกเหมาะสมที่สุด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเรื่องเขตแดนเป็นไปอย่างสันติ

"ภูมิธรรม" เมินกัมพูชาตั้ง กก.ฟ้องศาลโลก ไทยมีมาตรการรับมือ  

นายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางกัมพูชาตั้งคณะกรรมการ จัดทำเอกสารเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลโลก เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนไทย -กัมพูชา 4 พื้นที่ช่องบก, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ว่า ไม่เป็นไรต่างคนต่างทำหน้าที่ การจะฟ้องศาลโลกเป็นหน้าที่ของกัมพูชา ส่วนไทยเราก็มีมติไม่รับอำนาจขอบเขตศาลโลก ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ทุกอย่างให้ ว่า กันไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่าดูเหมือนปัญหายังมีหลายจุด พูดคุยไม่จบจะมีปัญหาในการประชุม jbc หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวยอมรับว่าปัญหาคงไม่จบเสียทีเดียว ต้องใช้เวลาพูดคุยกันในส่วน ที่เห็นไม่ตรงกันแต่ในเวทีเจบีซี ที่เราได้พูดเราได้พูดชัดเจน แล้วว่าจะพูดเฉพาะในกรณีที่ เป็นปัญหาต้องเคลียร์กันเป็น ส่วน ๆไปและคิดว่าไม่น่าจะมี ปัญหาอะไรเพราะเป็นข้อตก ลงร่วมกัน

เมื่อถามว่า จากท่าทีของ กัมพูชาในตอนนี้ทำให้เราต้อง คงมาตรการเปิดปิดด่านไป อีก นานเท่าไร นายภูมิธรรม กล่าว ว่า จากการสั่งการซึ่งผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาค 2 รับทราบตรงกันว่าเราจะ ยังคงดำเนินการตามมาตรการของแต่ละพื้นที่ ขณะนี้เรายังไม่ได้ยกระดับมาตรการ และย้ำว่าเราไม่ได้ปิดด่านแต่ เปิดปิดตามเวลาและจำกัดคน ส่วนที่มีการเผชิญหน้าเราก็ได้มีการปรับกำลัง ขณะที่พื้นที่อื่นยังคงมาตรการเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น เพราะเราได้ให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันในพื้นที่มากขึ้นอีกทั้งมีข้อเสนอให้จัดกิจกรรมร่วมกัน ลาดตระเวนด้วยการคิดว่าบรรยากาศโดยรวมน่าจะดีขึ้น

เมื่อถามว่ากรณีที่กัมพูชา จะนำเรื่องร้องต่อศาลโลกจะเข้าข่ายลักษณะเดียวกับกรณีเขาพระวิหารก่อนหน้านี้หรือไม่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบอย่างไร นายภูมิธรรมิ กล่วว่าเขาเป็นพระวิหารเป็นอีกเรื่องไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่อาจจะเป็นบทเรียนบางส่วนได้ ซึ่งเราจะไม่นำเรื่องนั้นมาพูดถึง แต่ ไม่ สามารถ เปิด เผย ได้

ส่วนข้อเสนอของ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่อยากให้เปลี่ยนหัวหน้าคณะเจรจาพูดคุยกับทางกัมพูชาเนื่องจากเป็นคนเดียวกับที่คุยสมัยเขาพระวิหารนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว้า คนที่อยู่กับปัญหา และอยู่กับพื้นที่น่าจะรู้ดีที่สุด ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพิจารณารัฐบาลจะรับฟัง ข้อเท็จจริงและเหตุผล เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าพึงใจหรือว่าใครชอบใคร ใครอยากได้ใคร เป็นเรื่องที่ว่าประเทศชาติมีปัญหาอยู่ตรงไหน ขอให้นึกถึงผลประโยชน์ตรงนี้เยอะๆ

เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาฟ้องศาลฝ่ายเดียวจะมีผลอะไรกับภัยหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่าเรื่องนี้พูดยาก คนฟ้องก็ฟ้องไป คนที่ไม่ยอมรับก็ไม่ไปเข้าสู่กระบวนการ แต่ หาก มี เงื่อน ไขอื่นก็เป็นเงื่อนไขทาง กฎหมาย แต่ไม่อยากจะพูดตรงนี้ เรื่องของกฎหมายให้กรม สนธิสัญญาต่างประเทศเป็นฝ่ายพูดจะดีกว่า แต่เราได้เตรียมความพร้อมและแนวทางในเรื่องนี้ไว้แล้ว เพราะประเทศวิกฤต แบบนี้ไม่เตรียมได้อย่างไร ส่วนจะเตรียมไว้อย่างไรขอให้ฟังการชี้แจงเป็นระยะ
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง