เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เรื่องแลกกระทรวงมหาดไทย และจะออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ตนไม่ได้ยินจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพราะตอนเจอกันก็ไม่เห็นพูดว่า จะออกจากรัฐบาล

เมื่อถามย้ำว่า ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ที่ขอเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคืน นั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ต้องถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพราะอำนาจอยู่ที่นายกฯคนเดียว แต่เห็นนายอนุทิน ออกมาพูดอยู่บ้าง ซึ่งแสดงว่า นายอนุทิน ได้รับสัญญาณแล้วมั้ง ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใครจะนั่ง ใช้นายภูมิธรรม หรือไม่ เพราะผลโพลอยากให้ปรับ รมว.กลาโหม นายภูมิธรรม หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “อยู่ที่ท่านนายกฯ ครับ”

ส่วนได้มีการพูดคุยกันเรื่องการปรับ ครม.ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็มี สส.เสนออยู่บ้าง แต่เราคิดว่า โดยมารยาทควรให้สิทธินายกฯในการพิจารณา เพราะนายกฯ มีอำนาจคนเดียวในการยื่นปรับ เราเองได้ยิน ได้ฟังทุกอย่าง ไม่ใช่ว่า เราไม่เห็นอะไรเลย แต่เราไม่ได้ยินจากนายกฯ จึงต้องรอนายกฯ

ส่วนหากถ้าพรรคภูมิใจไทยออกไป เสียงรัฐบาลจะขาดไปเยอะ ได้มีการเตรียมหาเสียงมาเพิ่มแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า เขาจะออกหรือไม่ออก เพราะเจอนายอนุทิน ก็ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ ยังพูดเรื่องการทำงานร่วมกันอยู่ แต่ว่า จะออกหรือไม่ออก หรือตัดสินใจทางการเมือง ต้องดูเงื่อนไขต่างๆ ให้พร้อม ถ้าจะมีการตัดสินใจทางการเมืองไม่ว่าพรรคไหน

ส่วนเรื่อง 48 ชั่วโมงที่มีการขีดเส้นให้พรรคภูมิใจไทย เป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เห็นเมื่อเช้า (18 มิ.ย.) เมื่อถามย้ำว่า นายอนุทิน ยืนยันว่า จะไม่ให้เก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายอนุทิน ตนไม่อาจจะทราบว่า เขาคิดอะไรอยู่

ส่วนฉากทัศน์ข้างหน้าหากพรรค ภท.ออก เสียงในสภาจะทำให้รัฐบาลอยู่ครบวาระหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าอยู่ไม่ครบวาระ นายกฯคงไม่มีการปรับ ครม.มั้ง เพราะรัฐบาลประกาศตลอดว่า จะร่วมไม้ร่วมมือกันอยู่ให้ครบวาระ เมื่อถามต่อว่า ได้ประเมินเกมในสภาหรือไม่ว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะเสียงปริ่มน้ำ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเมืองในสภาถ้าเรามีข้อเท็จจริง เราทำงาน ก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรมาก เพราะทุกคนทำหน้าที่ได้ เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสยุบสภาก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ จากในพรรคร่วมรัฐบาล

ทุกคนตั้งเป้าหมายว่า ทำงานให้ครบวาระ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเสียงในสภาปริ่มน้ำจริง จะสามารถทำงานในสภาจนครบวาระได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้มัน “ถ้า” ถ้าถามว่า “ถ้า” มันก็ไม่ควรตอบ ตอนนี้เสียงปริ่ม หรือไม่ปริ่มไม่มีใครรู้หรอก มีแต่คนที่คุมวิป คุมเสียงถึงจะรู้ว่า ปริ่มหรือไม่ปริ่ม

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้เป็นฝ่ายค้าน สามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ ถามตนไม่ได้ เมื่อถามว่า ในสภายังมีกฎหมายสำคัญที่ยังไม่ผ่าน เช่น ร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเอาเข้าสภา เขาก็ต้อง มั่นใจว่า สามารถเอาผ่านได้ เมื่อถามว่า เชื่อว่า ทุกฝ่ายเขาคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก เมื่อถามย้ำว่า หากไม่ให้มีปัญหา พรรค ภท.ก็ไม่ควรที่จะออกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่า อยู่ที่หัวหน้าพรรค ภท.คุยกับนายกฯ

เมื่อถามว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ ระบุไม่คิดว่า จะมาถึงจุดนี้ เพราะมีข้อตกลงกันตอนร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม ถามกลับว่า เขาให้สัมภาษณ์ที่ไหน เขาพูดคำนี้หรือ ต้องถามนายอนุทินว่า ถึงจุดนี้คือ จุดไหน เมื่อถามย้ำว่า ข้อตกลงมีอยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในส่วนที่ตนเกี่ยวข้อง ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีตน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.ในขณะนั้น ทุกพรรคที่คุยในพรรค พท.วันนั้น มีประเด็นเดียวคือ ไม่มีเรื่อง ม.112 ร่วมรัฐบาลกันได้

และพูดถึงกรอบใหญ่ว่า ถ้าเห็นด้วยกับพรรคแกนนำหลักว่า นโยบายส่วนหนึ่งคือ ยกเว้นเรื่อง ม.112 ถ้าเป็นไปได้ก็ร่วมกันได้ ยังไมได้พูดถึงเรื่องตำแหน่ง หรือเรื่องอะไรเลย

ส่วนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า มีการพูดคุยแค่เรื่องกระทรวง นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯไม่ได้พูดแบบนี้มั้ง ท่านเข้าใจผิดมั้ง เพราะว่า ตนคุย ท่านไม่ได้คุย เพียงคุยว่า ตกลงร่วมกันได้หรือไม่ และเขาบอกว่า ได้หมด ยกเว้นเรื่อง ม.112 เกือบทุกพรรคที่พูดวันนั้น เพราะเราไม่เอาเรื่อง ม.112 อยู่แล้วก็ชัดเจน จะเรียกว่า ปฏิญญาช็อกมินต์ ก็นี่แหละคือ ไม่เอา ม.112 เมื่อถามอีกว่า เรื่องการแบ่งกระทรวง เป็นการพูดคุยกันอีกระดับหนึ่งใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าพูดช็อกมินต์มีแค่นี้ แต่เรื่องแบ่งกระทรวงอยู่ที่การตั้งรัฐบาล ต้องมีการคุยอยู่แล้ว เป็นสเต็ปต่อไป ซึ่งมีเงื่อนไขของแต่ละพรรคต่างๆ นานาไป คิดว่า ไม่มีอะไร

เมื่อถามอีกว่า จะสามารถเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไปถามนายกฯ ถ้านายกฯอยากจะปรับเฉพาะบางกระทรวงก็ปรับ จะปรับรัฐมนตรีเฉพาะคนก็ปรับ ถ้าปรับทั้งหมดก็ปรับ อยู่ที่นายกฯ เมื่อถามย้ำว่า ปัญหาเศรษฐกิจ นายภูมิธรรมจึงตอบว่า เศรษฐกิจก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่เกี่ยวกับการตั้งรัฐบาล