วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:09 น.

การเมือง

"ศบ.ทก." เล็งชงยกระดับปราบ "คอลเซ็นเตอร์เขมร" ตัดไฟ เน็ต น้ำมัน เหมือนปราบ "สแกมโบเดีย" เมียนมา

วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.45 น.

"ศบ.ทก." เล็งชงยกระดับปราบ "คอลเซ็นเตอร์เขมร" ตัดไฟ เน็ต น้ำมัน เหมือนปราบ "สแกมโบเดีย" เมียนมา ขณะที่ "มทภ.2" เผย "บิ๊กปู" เชื่อมั่น "ทัพภาค2" รอฟัง "นายกฯ" ยกระดับมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา หากสู้รบต้องปิดด่านตลอดแนว

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568  ที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะเลื่อนการแถลงข่าวเป็นเวลา 18.00 น. จากกำหนดเดิมเวลา 12.00 น. เนื่องจากต้องรอผลการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่กัมพูชาเป็นแหล่งสแกมเมอร์

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าอาจจะมีการยกระดับมาตรการเป็นรูปแบบใกล้เคียงกับมาตรการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งขณะนั้น มีมาตรการตัดอินเทอร์เน็ต ตัดไฟ และน้ำมัน บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมีแม่ทัพภาคต่างๆและผู้บังคับหน่วยเข้าร่วมประชุม ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มาร่วมประชุมด้วย

พล.ท.บุญสิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผบ.ทบ. ท่านเชื่อมั่น กองทัพภาคที่ 2 ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดยผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำ ในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดน ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่หรือไม่ เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอด การอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆเป็นไปตาม ห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่ง รับทราบเช่นกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เรื่องการทหาร ถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน แต่ยืนยันว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธี ของทางฝั่งกัมพูชา

เมื่อถามว่า วันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรี ก่อน ซึ่งขณะนี้ ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว นั้น แม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า ดูไปตามสถานการณ์ หากมีการต่อสู้ หรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาส

ส่วนการปิดด่านตลอดแนว หรือไม่นั้น เราจะเพิ่มการควบคุม แล้วจะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานั้น แต่จะพยายามพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และมองว่าทางรัฐบาลคงมีช่องทางหรือแนวทางในการพูดคุยกับทางกัมพูชา แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ แต่จากการประเมินสถานการณ์ มีความเป็นไปได้ในอนาคตจะมีการปิดด่านไทยกัมพูชาตลอดแนว แต่ทุกอย่างต้องประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน

"หากเกิดการปะทะหรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาสที่จะปิดชายแดนตลอดแนว ซึ่งจะต้องมีการควบคุมเครื่องมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ ซึ่งรอดูวันนี้อีกครั้ง ในระดับผู้บริหารของเรา

ส่วนที่กัมพูชา ไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากฝั่งไทยนั้น ถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่าน ซึ่งจะต้องควบคุมการเข้าออก ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องคัดกรอง"

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 พร้อมจะอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนชาวกัมพูชา หากเข้ามาเติมน้ำมัน เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ทั้งคนป่วย เด็กนักเรียน รวมถึงการซื้อของอุปโภคบริโภค แต่หากเป็นการซื้อเพื่อการค้า ในจำนวนปริมาณมาก ก็เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละด่าน

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่าในวันนี้จะลงพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ กับ ผบ.ทบ. เพื่อให้กำลังใจ กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ อยากฝากถึงคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้มีความรักความสามัคคี ของคนในชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในภาวะที่ประเทศวิกฤติเช่นนี้ ส่วนทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่า ชายแดนไทยเราจะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน

หน้าแรก » การเมือง