วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568 03:35 น.

การเมือง

พรรคเพื่อไทยแถลงเดินหน้าทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 

วันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.13 น.

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 พรรคเพื่อไทย แถลงการณ์ เรื่อง แนวทางจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ความว่า 
                
จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๘ เรื่อง อำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามคำร้องของประธานรัฐสภา สืบเนื่องมาจากญัตติของ น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย 
        
เนื่องจากคำวินิจฉัยฉบับเต็มและคำวินิจฉัยส่วนตนยังไม่ประกาศเผยแพร่ มีเพียงคำแถลงข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อพิจารณาจากคำแถลงยังคงมีประเด็นของ        ความชัดเจนแน่นอนที่นำไปสู่การถกเถียงในเนื้อหาบางประเด็น เช่น คำวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งขัดต่อหลักการที่ว่า ประชาชนมีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ อีกทั้งมิใช่ประเด็นคำถามในอำนาจหน้าที่ที่รัฐสภาส่งไปโดยตรงแต่อย่างใด    
        
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว บางฝ่ายได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าเพราะญัตติของพรรคเพื่อไทย เป็นเหตุให้ต้องส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องยุ่งยากสลับซับซ้อนขึ้น ประเด็นดังกล่าวต้องย้อนกลับไปเมื่อประธานรัฐสภาตัดสินใจบรรจุระเบียบวาระรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เห็นได้ชัดเจนว่าการประชุมรัฐสภาไม่อาจเกิดขึ้นได้ ปิดประตูการเสนอญัตติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสิ้นเชิง ในขณะนั้นสมาชิกบางส่วนยังยืนกรานว่ารัฐสภามีอำนาจ ไม่สมควรส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจึงแสวงหาหนทางในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร จนสามารถผลักดันให้รัฐสภามีมติได้
        
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญพอจะสรุปสาระสำคัญได้ว่า 
        
๑. รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน
        
๒. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐธรรมนูญด้วย
        
๓. รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
        
๔. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ๓ ครั้ง
            
ครั้งที่ ๑ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
            
ครั้งที่ ๒ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร
            
ครั้งที่ ๓ ภายหลังรัฐสภาทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ประชาชน       ออกเสียงประชามติว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
            
โดยการออกเสียงประชามติครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้
            
ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ยังยืนยัน   ที่จะเดินหน้าทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป และจะดำเนินการดังนี้
            
๑. เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
            
ดังนั้น จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในหมวด ๑๕ เป็นอย่างอื่นมิได้ คงทำได้เพียงเพิ่มหมวด ๑๕/๑ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น โดยให้รัฐสภาพิจารณาเป็น   สามวาระ ต้องนำไปทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ (๘)
            
๒. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่อาจกระทำโดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนได้ แต่อาจจะทำได้โดยเลือก สสร. โดยทางอ้อม หรือรัฐสภามีมติแต่งตั้ง สสร. หรือคณะกรรมาธิการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะทำงานของพรรคจะไปไตร่ตรองตัดสินใจในชั้นเสนอญัตติต่อรัฐสภา 
            
๓. สำหรับการทำประชามติ เนื่องจากต้องดำเนินการตามหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจึงต้องทำประชามติอยู่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ (๘) โดยรัฐสภาต้องแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ       ส่วนการทำประชามติครั้งที่ ๑ จะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมกันกับการทำประชามติครั้งที่ ๒        ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ (๘) หรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณา เพราะการทำประชามติจะเกิดขึ้นได้ เมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นสมควร หรือเมื่อรัฐสภาร้องขอตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เช่นกัน

๔. สำหรับคำถามประชามติครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ ควรต้องมีคือ
            
คำถามแรก เห็นชอบว่าสมควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ (ครั้งที่ ๑)
            
คำถามที่สอง เห็นชอบกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามรายละเอียดในรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด ๑๕ หรือไม่       (ครั้งที่ ๒)
            
พรรคเพื่อไทยจึงขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าจะผลักดันและเดินหน้าให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด

                                               จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
                         พรรคเพื่อไทย
  ๑๑ กันยายน ๒๕๖๘"

หน้าแรก » การเมือง