วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:37 น.

การเมือง

นายกฯยกยูเอ็นชี้ "กัมพูชา" ศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์โลก เดินหน้าเข้มปราบแก๊งคอลฯ

วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 14.05 น.

นายกฯถกปราบแก๊งคอลฯฝั่งเขมร ยกข้อมูลยูเอ็นระบุกัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก เหตุผลสำคัญไทยจำต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการสกัดกั้น 

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานานาชาติ

โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการหลอกลวงต่างๆ ซึ่งเห็นผลชัดเจนว่าคดีลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหลอกคนไทยไปทำงานในแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน

พร้อมกันนี้ยังอ้างอิงข้อมูลจากสหประชาชาติที่ระบุว่า “กัมพูชา” เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ไทยต้องเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการสกัดกั้น ไม่เพียงเพื่อคุ้มครองพลเมืองไทย แต่ยังเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของประเทศ

“ถ้าเขาเสียรายได้มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าคนของเราปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียรายได้จากกิจกรรมผิดกฎหมายไปแล้วประมาณ 30,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความสำเร็จของไทยในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรม

นางสาวแพทองธารยังกำชับให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดินหน้าทำงานเชิงรุกต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เป็นหูเป็นตาแทนประชาชน เพื่อให้คนไทยรู้สึกปลอดภัยในบ้านของตน และลดจำนวนคดีลงให้ได้มากที่สุด

“รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างสูงที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นบ้านที่อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับทุกคน” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันอย่างแข็งขันจนเห็นผลเป็นรูปธรรม
 

หน้าแรก » การเมือง