เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568  นายภัชริ นิจสิริภัช เหรัญญิกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลวงเงิน 115,375 ล้านบาท ที่กระจายไปใน 481 โครงการทั่วประเทศว่า “เกาไม่ถูกที่คัน” และไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้  โดยชี้ว่าแม้รัฐบาลตั้งเป้ากระตุ้น GDP ให้โต 0.4% และจ้างงานได้ 7.4 ล้านคน แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกถึงผลลัพธ์ เพราะกำลังซื้อยังไม่กลับมา ขณะที่เงินเฟ้อลดลงก็ไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจดีขึ้น แต่กลับแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่กล้าใช้เงิน

นายภัชริย้ำว่าจากแผงงบประมาณที่รัฐบาล วางแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่เห็นกรอบงบประมาณส่วนใด ที่ถูกจัดสรรออกมา สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นโดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งหากไม่มีเม็ดเงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจในระบบ จะทำให้ภาคธุรกิจขนาดเล็ก SMEs คงไม่สามารถ ประคอง กิจการให้สามารถเดินไปถึง ช่วงปีหน้าได้อย่างแน่นอน

“ถ้ามองให้ลึกลงไป จะพบว่างบส่วนใหญ่ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้จริง เพราะเป็นงบปลายปีหรือต้นปีหน้า ไม่ตอบโจทย์ภาวะที่ประชาชนกำลังลำบากในตอนนี้” นายภัชริระบุ

นายภัชริ ยังตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณในหลายด้าน เช่น การบริหารจัดการน้ำ หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ละกระทรวงก็มีงบประจำอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เร่งนำมาใช้ก่อน และหลายโครงการยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ควรมีแผนบูรณาการเพื่อความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ทุ่มงบโดยไร้กลยุทธ์

"งบท่องเที่ยวควรนำมาใช้แก้จุดอ่อนที่แท้จริง เช่น ปัญหาการเดินทางที่ไม่เชื่อมโยง เมืองรองยังเข้าไม่ถึง เราเพิ่งได้รถไฟเก่า Kiha จากญี่ปุ่นมา 22 ขบวน ก็ควรปรับปรุงแล้ววางแผนให้วิ่งเชื่อมเมืองท่องเที่ยว เช่น ในภาคเหนือ เลือก 6 จังหวัดวางระบบรางเชื่อมต่อ วางรอบวิ่งเช้ายันดึก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น” นายภัชริกล่าว

พร้อมกันนี้ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะเป็นผู้นำการประชุมร่วมกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น คมนาคม การท่องเที่ยว และมหาดไทย เพื่อร่วมออกแบบแผนงานแบบบูรณาการที่ใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและตรงจุดมากขึ้น

"วันนี้สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่แค่งบ แต่เป็นวิธีคิดใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มองเห็นปัญหาจริงในพื้นที่ และเร่งอัดเงินเข้าสู่ระบบให้เร็วที่สุด เพื่อให้คนกลับมามีกำลังซื้อ และเศรษฐกิจฟื้นตัวได้จริง" นายภัชริ กล่าว