นายกรัฐมนตรีนำทีมลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ รับฟังผลกระทบจากมาตรการจำกัดเข้า-ออก พร้อมเร่งพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าติด 500 คัน –สั่งหน่วยงานความมั่นคงดูแลสันติวิธีเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กท 888 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจราชการจังหวัดสระแก้ว

จุดแรกเวลา 10.15 น. ที่ห้องประชุมโรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายกฯเป็นประธานการประชุมหารือผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเข้า - ออก จุดผ่านแดนไทย - กัมพูชา โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ตัวแทนเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยผู้ว่าฯ สระแก้วกล่าวรายงานและมีเสนอในที่ประชุมว่า ได้รับข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกรจังหวัดในแต่ละปีมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากกัมพูชาช่องทางสระแก้วปีละ 1 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้ทบทวนโควตานำเข้า เพื่อให้มันสำปะหลังของไทยได้รับการรับซื้อมากยิ่งขึ้น รวมถึงขอให้ยกเลิกการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดนคนละ 1,000 บาทในช่วงสงกรานต์ เพราะสงกรานต์ที่ผ่านมาเงินยกเว้นดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 74 ล้านบาท หากเราเลิกยกเว้นก็จะมีเงินเข้ามาพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังชะลอหรือให้ยกเลิกกิจกรรมความสัมพั​นธ์ไทย​- กัมพูชา​ 75 ปี​ ออกไปโดยไม่มีกำหนด ขณะเดียวจังหวัดสระแก้วเห็นควรระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่า​ทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบลกลางในการก่อสร้างสะพาน​ เนื่องจากสะพาน มิตรภาพไทย- กัมพูชา หนองเอี่ยน​ -​สตึงบด ซึ่งอยู่บริเวณตำบลท่าข้ามอำเภออรัญประเทศ ที่ก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างให้จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาทบทวนหลายๆเรื่อง แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ รัฐบาล และกระทรวงในการพิจารณา

โดยนายกฯ กล่าวภายหลังรับฟังรายงานจากหน่วยงานต่างๆว่า พูดได้ตรงใจในเรื่องปัญหาชายแดน เพราะเข้าใจว่าทุกภาคส่วนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ความจริงพูดเสมอว่าสมมุติว่าไปที่จังหวัดไหน จะบอกว่าเราอยากจะกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด เรานั่งทำงานอยู่ทุกคนที่ทำอยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ต้องรู้ปัญหาดีกว่าภาคส่วนอื่นๆ ถ้ากระทรวง และรัฐมนตรีทุกอย่างเรียบร้อยจะให้ลงพื้นที่กันเยอะขึ้นเหมือน สส. เพื่อจะได้รู้ปัญหาของประชาชนดีขึ้น ที่ประธานหอการค้าฯพูดถูกเลยว่าตรงนั้นมีปัญหาเรื่องการค้าขายไม่ได้ มีปัญหาเรื่องทะเลาะกันหรือชายแดนใดๆ แต่มันติดเรื่องการค้าขาย เพราะมันมีปัญหาเรื่องชายแดนเกิดขึ้น ซึ่งอันนี้ทางกองทัพทำอย่างเต็มที่เพื่อสันติวิธี เป็นสิ่งที่ตนเองถ้าจะทำอะไรต้องคิดข้อนี้เป็นข้อแรกก่อนว่าทำอย่างไรให้เกิดสันติวิธี ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการปะทะ ไปเยี่ยมให้กำลังใจอยู่กับทหารเป็นหมื่นราย จะทำอย่างไรให้ทหารตรงนั้นไม่เกิดการปะทะและสู้รบกัน และเขายังกลับบ้านได้ กลับไปหาครอบครัวได้คือหลักอย่างแรก ที่ไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ คือสิ่งที่คิดตลอดจริงๆ ว่าต้องทำให้ได้

นายกฯ กล่าวต่อว่า แต่ตอนนี้เรื่องค้าขายสำคัญมากได้ฟังปลัดพาณิชย์รายงานว่าไปลงพื้นที่ดูว่าสินค้าเกษตรต่างๆ ยังติดอยู่ที่ชายแดนหรือไม่ ซึ่งได้มอบหมาย รมว.พาณิชย์ สั่งให้ดูเรื่องนี้ไปแล้ว หากประธานหอการค้าฯมีอะไรเพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนที่ทำการค้าขายตรงชายแดนขอให้บอกได้เลย เราพูดถึงเรื่องมันสำปะหลังโควตาของมันสำปะหลังพูดจริงๆ ว่าราคามันสำปะหลังตกต่ำเรื่อยๆ เราทำราคาของเราให้ดีก่อนไปกำหนดโควตาใหม่จะให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดโควตาราคามันสำปะหลังใหม่ ในประเทศมันต้องได้ก่อนค่อยไปกำหนดโควตาต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะทำไปทำไม ขอให้ถือเป็นโอกาสดีในการทบทวนมาตรการใหม่ว่าอะไรบ้างที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วทำให้ราคาสินค้าเราไม่ตก จะรับเรื่องนี้ดำเนินการต่อ ทั้งนี้ เราให้อำนาจกองทัพดูว่าหน้างานควรทำอย่างไร ตรงหน้างานว่าปิดหรือเปิด เราไม่ได้ลงหน้างานจะไม่เห็น คนหน้างานจะเห็นได้ชัดเจนและจะได้ทราบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่พาณิชย์จังหวัด กล่าวว่า มีรถสินค้าติดอยู่ที่ด่าน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา 500 คันที่จะข้ามด่าน พอมีการปิดด่านทุกวันนี้รถบางส่วนยังจอดอยู่ บางส่วนเป็นสินค้าเสียหายกลับไปโรงงานตรงจุดโลจิสติกส์ที่จะไปพนมเปญ พอด่านปิดเริ่มมีเหตุการณ์บริษัทใหญ่วิ่งออกทางมุกดาหารอ้อมไปเวียดนาม และเข้าพนมเปญ วันนี้ผู้ประกอบการคนส่งทางกัมพูชาขนส่งไปเข้าทางลาว แปลกใจว่าทำไมสินค้าบ้านเราที่ไปจากอรัญประเทศต้องไปอ้อมเป็น 1,000 กิโลเมตร เพราะสินค้าบางอย่างใช้ของไทยมาตลอด ถ้าระยะห่างไปนานนานหลายเดือนเขาต้องหาสิ่งของที่มาทดแทนสินค้าของเรา อยากให้นายกฯ และหน่วยงานความมั่นคงศึกษาเรื่องจุดของสระแก้ว เริ่มได้รับความเสียหายอย่าให้ได้รับการกระทบกระเทือน เพราะปิดเดือนที่แล้วกระทบส่งออกหมื่นกว่าล้าน และตอนนี้มันเหลือศูนย์

ด้านนายกฯ กล่าวต่อว่า เดี๋ยวจะดูมาตรการพิเศษให้ว่าสามารถทำอะไรตรงนั้นได้บ้างและรับจะให้พาณิชย์จังหวัดช่วยดู ทั้งนี้ วันนี้ที่จะมาความจริงหลักๆ เป็นเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นปัญหาที่ใหญ่ และเป็นมาตรการจำกัดการเข้า-ออกจุดผ่านแดนที่เราได้ดำเนินการไปก็จะพยายามรองรับจุดนี้ว่าเมื่อมีการจำกัดเวลาแบบนี้แล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางรัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง คือเป้าหมายหลักที่มาในวันนี้แน่นอน เป็นเรื่องของปัญหาที่ชายแดนทางทีมไทยแลนด์ก็ดูแลอยู่ มีครบทุกหน่วยงานที่จะดูแลเรื่องนี้ต่อไป จึงขอให้ใช้กลไกลผ่านกระทรวงมหาดไทยดูแลประชาชนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่ามีอะไรบ้างสามารถช่วยเหลือได้ และขอให้ตรวจสอบเรื่องการทำงานการขอความช่วยของประชาชนจะต้องรวดเร็วขึ้นและโปร่งใส ไม่ใช่ขอไปแล้วต้องรอไปอีกครึ่งปีกว่าจนปัญหาหายไปแล้ว เรื่องพวกนี้อาจจะต้องทบทวนกันใหม่ เพราะระบบเดิมมีมานานแล้วอาจจะต้องเปลี่ยน

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องของกระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนเรื่องสินค้าที่ตกค้าง นอกจากสินค้าที่ตกค้างทางที่ประธานหอการค้าฯ ได้บอกมาแล้ว แต่รายละเอียดบริษัทเอกชนไม่อยู่ในอำนาจรัฐต้องฝากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ทบทวนตรงนี้ด้วยว่าเรื่องบริษัทที่จดทะเบียนเอกชนมีอะไรไหมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง หากเป็นบริษัทเอกชนแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เราสามารถนำตรงนี้ไปพิจารณาได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป อาจจะขอข้อมูลกับทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพิ่มขึ้นด้วยว่ามีอะไรบ้างที่สุ่มเสี่ยงในเรื่องการทำอาชญากรรมข้ามชาติ เรื่องของสแกมเมอร์ต่างๆ ขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)ให้ข้อมูล

“ดิฉันต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจความจริงแล้วเราต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนเยอะๆ ว่าเราต้องการทำอะไรบ้าง ความจริงแล้วทุกชีวิตสำคัญหมดตรงชายแดนเป็นเรื่องของสันติวิธี แต่ขอให้ทุกภาคส่วนได้ลงพื้นที่และดูในเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และคิดว่าความจริงแล้วรัฐยังมีกำลังความสามารถในการช่วยเหลือประชาชนได้อีกเยอะ ถ้าเราได้รับรายงานปัญหาที่ตรงจุด เราจะสามารถแก้ไขได้แน่นอน มั่นใจอย่างนั้นจริงๆ และมั่นใจว่าทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ รวมถึงทีมงานข้างหลังของทุกคนทุ่มเท แรงกาย แรงใจทำงานอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนและกองทัพที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นด้วย และความเหน็ดเหนื่อยต่างๆ อย่างท่านแม่ทัพภาคที่ 1 ท่านทราบในเรื่องของปัญหาชายแดนอย่างไร สามารถมาเข้าทีมไทยแลนด์ได้เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาต่างๆ” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมการเรียนการสอนของโรงเรียนอรัญประเทศ และร่วมกิจกรรมทักทายเป็นภาษาอังกฤษ โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า​ เด็กสมัยนี้กล้าแสดงออก ขอให้กำลังใจน้องๆทุกคน​ เรียนอะไร​ ขอให้ผ่านไปด้วยดี อ่านอะไรก็ให้เข้าสมอง​ ขอให้สอบได้ จากนั้นได้ถ่ายรูปและทักทายกับเด็กๆอย่างเป็นกันเอง