การเมือง
"พงศ์กวิน" เข้าปฎิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน วันแรก เปิด 5 นโยบาย ยกระดับแรงงานไทยครบทุกมิติ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

"พงศ์กวิน" เข้าปฎิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน วันแรก เปิด 5 นโยบาย ยกระดับแรงงานไทยครบทุกมิติ พร้อมเร่งผลักดันสิทธิประโยชน์สูงสุด หนุนรายได้ต่อวันเพิ่ม มุ่งสร้างโอกาสเพื่อแรงงานไทยอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภายในวันนี้ ( 4 กรกฎาคม 2568 ) เวลา 08.19 น. ได้เดินทางมาถึงกระทรวงแรงงาน และภายในเวลา 09.19 น. ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงแรงงานทั้ง 5 จุด สำหรับวันนี้ที่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเป็นวันแรก ตนมีความพร้อม และจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ประชาชนและแรงงานไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ถือเป็นภารกิจที่สำคัญมาก เพราะแรงงานคือกลไกหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ที่ผ่านมา ผมทำงานภาคเอกชนมาก่อน ผมเข้าใจทั้งในมุมของนายจ้างและลูกจ้าง เข้าใจความท้าทายของแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ และเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์ที่มี จะสามารถนำมาปรับใช้ในการกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์ได้จริงครับ” นายพงศ์กวิน กล่าว
นายพงศ์กวิน เผยต่อถึง กรณีแรงงานกัมพูชาที่ขณะนี้ได้ทยอยกลับประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงาน ที่เป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ รวมถึงอาจมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางราย โดยทุกฝ่ายได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาแนวทางการปรับสัดส่วนแรงงานแต่ละสันชาติให้สมดุล เพื่อให้สัดส่วนแรงงานต่างด้าวแต่ละสัญชาติมีความเหมาะสม โดยจะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแรงงานจากนอกกลุ่ม CLMV เข้ามาเสริม โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ทักษะเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพแรงงานเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายสูงสุด จึงจะเร่งดำเนินการขับเคลื่อน 5 นโยบาย เพื่อให้แรงงานไทยมีชีชิตให้เป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีรายได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดย 5 นโยบาย ประกอบด้วย 1. "AI เพื่อยกระดับแรงงานไทย" โดยจะเร่งพัฒนาหลักสูตร AI ให้สอดคล้องกับภาคการผลิตและบริการ พร้อมดึงแรงงานทุกกลุ่มเข้าสู่กระบวนการฝึกทักษะ บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน และใช้กลไก พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานฯ กระตุ้นภาคเอกชนร่วมพัฒนาทักษะแรงงานด้าน AI ให้ทันต่อความต้องการของตลาด
2. ”การคุ้มครองแรงงานอย่างเท่าเทียม” โดยจะผลักดันกฎหมายแรงงานใหม่ให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ กว่า 21 ล้านคนเพื่อเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติ นำไปสู่การบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องด้วยปัจจุบันมีการทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งกระทรวงแรงงานจะต้องดูแลแรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมศึกษารูปแบบการทำงานใหม่ เพื่อพัฒนากฎหมายและระบบประกันสังคมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
3 . “Learn to Earn” เนื่องด้วยเยาวชนช่วงอายุ 15-18 ปี ในปัจจุบันมีความสามารถรอบด้าน จึงต้องสนับสนุนและส่งเสริม เพื่อนำไปสู่การหารายได้เสริมระหว่างเรียน และยังเป็นการเสริมประสบการณ์ สร้างทักษะ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งขณะนี้ยังมีกฎหมายคุ้มครองที่ชัดเจน ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้ทำงานได้ แต่ต้องเป็นการทำงานที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและสภาพจิตใจ และต้องไม่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเยาวชน จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และผู้ประกอบการ ในการสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชน เพื่อผลักดันให้นโยบายดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
4. “สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยการยกระดับรายได้ให้แก่แรงงานไทย” โดยจากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจำนวนประมาณ 24 ล้านคน ที่แม้ว่าในช่วงปีนี้ได้มีการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแล้วถึง 2 รอบ ทำให้แรงงานในบางพื้นที่และบางสาขาอาชีพ ได้รับค่าจ้างในอัตราวันละ 400 บาท แต่ก็ยังมีผู้ประกันตนอีก 2.3 ล้านคน ซึ่งเป็นแรงงานไทย 1.8 ล้านคนที่ยังได้รับค่าจ้างไม่ถึงวันละ 400 บาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแรงงานกว่า 90% มีรายได้เกิน 400 บาท ต่อวันแล้ว สำหรับกลุ่มที่เหลือได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งยกระดับรายได้ของแรงงานกลุ่มนี้โดยด่วน ซึ่งในระยะแรกจะฝึกอบรมพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นการ Up – Skill Re – Skill เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้มีทักษะฝีมือได้มาตรฐานที่จะเข้าสู่ระบบค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ทำให้ได้รับค่าจ้างสูงขึ้นเกินกว่าวันละ 400 บาท ท้้งนี้กระทรวงฯพร้อมพัฒนากลไกค่าจ้างขั้นต่ำและโครงสร้างค่าจ้างให้มีประสิทธิภาพในระยะยาว
5. ”การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยอย่างเร่งด่วน“ เนื่องจากปัจจุบันแรงงานต่างด้าวมีส่วนในการขับเคลื่อนภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามไม่สามารถ ปล่อยให้มีการใช้แรงงานต่างด้าวโดยขาดการควบคุม ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นจึงจะเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยอย่างเร่งด่วน โดยเร่งประชาสัมพันธ์ให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน เข้าสู่กระบวนการขออนุญาต หรือผ่อนผันให้ทำงานในประเทศไทย ตามที่กฎหมายกำหนดให้ครบถ้วนตามจำนวน และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบทำงาน และการทำงานที่เป็นการแย่งอาชีพคนไทย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- กองทัพอากาศเปิดตัว "โดรนพลีชีพ" ฝีมือคนไทย พุ่งโจมตีเป้าหมายด้วยแรงระเบิดอย่างแม่นยำ 5 ก.ค. 2568
- "วราวุธ" ยกขบวน สส.ชาติไทยพัฒนา เยือนบ้าน-ขอบคุณ "เลขาฯประภัตร" ที่เป็นเสาหลักให้พรรค 5 ก.ค. 2568
- กัมพูชาปัดคำกล่าวอ้าง "แพทองธาร" ยันปราสาทตาเมือนอยู่ในอธิปไตยเขมร 5 ก.ค. 2568
- โฆษกไทยสร้างไทย จี้คลัง-พาณิชย์ แจงด่วน ทำดีลสหรัฐฯ ล่ม เอาอะไรไปคุย 5 ก.ค. 2568
- "ประภัตร" ประกาศพร้อมสละเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา "อนุชา-วราวุธ" วอนอย่าเพิ่งลาจาก 5 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.มหานิยม" ลงพื้นที่ติดตามข้อพิพาทที่ดินวัดดอยธรรมเจดีย์ ย้ำทุกขั้นตอนต้องชัดตามกฎหมาย – พระสงฆ์สายวิปัสสนาชี้วัดดูแลป่ามาตลอด 20:16 น.
- "อรรรถกร" ลุยสั่งการ ส.ป.ก.สระแก้ว เร่งจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.แปลงว่างอย่างเป็นธรรม เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ 20:11 น.
- "ประภัตร" ประกาศพร้อมสละเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา "อนุชา-วราวุธ" วอนอย่าเพิ่งลาจาก 20:06 น.
- กองทัพภาค 2 ยันไม่ปิดกั้นส่งยา ช่องจอมเดินหน้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านตามหลักมนุษยธรรม 19:01 น.
- กต.ยันไทยแจง UN ครบถ้วน ปมกัมพูชาส่งหนังสือฟ้องปมชายแดน 18:29 น.