วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:53 น.

การเมือง

"เมฆินทร์" ชี้น่าผิดหวัง "ดร.เอ้" ลาออก ปชป. เชื่อหวังใช้กระแสส่วนตัวอุ้มนั่งเก้าอี้ผู้ว่า กทม.

วันเสาร์ ที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 17.33 น.

‘เมฆินทร์’ ชี้ ‘ดร.เอ้’ ลาออกจากสมาชิก ปชป. เป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่น่าผิดหวัง หลังได้รับโอกาสจากพรรคฯ ให้เป็นรองหัวหน้าฯ  ดูแล กทม. ชี้หวังกระแสส่วนตัวอุ้มนั่งเก้าอี้ผู้ว่า กทม. พร้อมให้กำลังใจ ‘หัวหน้าฯต่อ’ และสมาชิกพรรค ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคให้พรรคกลับมาเป็นที่นิยมตลอดไป 

นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยคาดหมายว่า จะไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีอดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ไปจดทะเบียนจัดตั้งเอาไว้แล้วว่า ถือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่น่าผิดหวังของ   นายสุชัชวีร์เอง เนื่องจากการตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสุชัชวีร์ นั้น ไม่ใช่เป็นการลาออกของสมาชิกพรรคที่มีผลต่อตัวเองเท่านั้น แต่ทำให้ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคฯ ต้องมีการเลือกขึ้นมาใหม่  โดยเฉพาะรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเวลานี้คนกรุงเทพมหานคร กำลังต้องการพรรคการเมืองที่เคยดูแลทุกข์สุขของคนกรุงเทพฯ มาเป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมา 2 ปี คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เริ่มทราบแล้วว่า การที่เลือกผู้สมัคร สส. โดยเอากระแสนำหน้า สุดท้าย สส.ที่ได้รับเลือกมากลับหายหน้าไม่มาเจอชาวบ้านที่เลือก แต่คนที่ชาวบ้านเห็นหน้ามากที่สุดกลายเป็นอดีต สส.และอดีตผู้สมัคร สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังพบปะเจอหน้าประชาชนอยู่เสมอ 

ทั้งนี้ การที่นายสุชัชวีร์ ได้มาเป็นรองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น เนื่องจากว่า ที่ประชุมใหญ่ของพรรคฯ ได้มีการยกเว้นข้อบังคับพรรคในเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคที่ต้องต่อเนื่องยาวนานหลายปี  เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เห็นศักยภาพในตัวของนายสุชัชวีร์ ว่าจะสามารถนำทัพผู้สมัครกรุงเทพมหานครของพรรคฯ กลับมามีที่นั่ง สส.ได้ แต่ที่ผ่านมา นายสุชัชวีร์ กลับขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองในนามของตัวเอง มากกว่าจะร่วมขับเคลื่อนในนามของพรรค ดังนั้น ทำให้ตนไม่แปลกใจว่า ทำไมนายสุชัชวีร์ ถึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  โดยอาจจะหวังว่า กระแสความชื่นชอบของประชาชนที่มีต่อนายสุชัชวีร์ แต่เพียงอย่างเดียว จะทำให้มีโอกาสทำงานในทางการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะมีการเลือกตั้งในช่วงปี 2569 ที่ใกล้จะถึงนี้ ซึ่งหลังจากนี้ ทางพรรคฯ อาจจะต้องพิจารณาหาตัวบุคคลที่เหมาะสม ทั้งในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคฯ ที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่ง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่จะต้องมีการพิจารณาในชั้นของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ต่อไป 

“นายสุชัชวีร์ อาจจะมีความเชื่อว่า ในการบริหารงานของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ประชาชนบางส่วนเริ่มมีความเบื่อหน่าย ประกอบกับประชาชนยังคาดหวังให้นายสุชัชวีร์ กลับมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง ทำให้นายสุชัชวีร์ เชื่อว่า หากเอาสองสิ่งนี้มาประกอบกัน ก็จะทำให้มีโอกาสเข้าไปนั่งทำงานเป็นผู้ว่าฯ กทม. ได้ จึงเป็นสิ่งที่จูงใจให้ นายสุชัชวีร์ ลาออกจากพรรค เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่านายสุชัชวีร์ หรือหลายๆคนที่ตัดสินใจลาออกไปแล้วแต่ยังกลับมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนคนๆ นั้นไม่เคยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนนั้น  ตนอยากให้ลองย้อนกลับไปในวันที่มาไหว้พระแม่ธรณี ขอสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะบางคนวันที่เข้ามาก็เป็นข่าวคึกโครม วันที่ออกก็เป็นข่าวคึกโครม ซึ่งคนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน และคณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ซึ่งก็มาจากที่ประชุมใหญ่ของพรรค ก็ไม่ได้ผิดแผกแตกต่างกับหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคในยุคอื่นๆ ที่ผ่านมาเลย ดังนั้น ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ก็บอบช้ำมามากจากคนที่เคยได้รับโอกาสจากพรรคแล้วพยายามโทษพรรคฯ เพื่อให้ตัวเองดูดีและมีความน่าสงสารในสายตาประชาชน เพราะฉะนั้น ตนจึงขอให้กำลัง ดร.เฉลิมชัย คณะกรรมการบริหาร และสมาชิกของพรรคในปัจจุบัน  ช่วยกันฝ่าฟันเพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆนานา และนำพรรคฯ กลับขึ้นมาเป็นที่นิยมของพี่น้องประชาชนตลอดไป” นายเมฆินทร์กล่าว 

 

หน้าแรก » การเมือง