วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:23 น.

การเมือง

"ภูมิธรรม"  เผย "ทรัมป์" โทรหาบอกจะจัดการเรื่องภาษีให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้  "รมว.คลัง" ไม่ได้ยืนยันอัตราภาษี 18%

วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.28 น.

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีสหรัฐอเมริกาที่จะลดกำแพงภาษีให้ไทย หลังเข้ามาช่วยเจรจาปัญหาไทย-กัมพูชา โดยภาษีจะมีผลในวันพรุ่งนี้ ว่าไม่แน่ใจรายละเอียดที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปเจรจาอย่างไรบ้าง คงมีการติดต่อกันอยู่ แต่วันที่เราประสบความสำเร็จในการพูดคุยกับกัมพูชา ที่มาเลเซีย ทาง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้โทรหาในช่วง 4 ทุ่ม หลังเดินทางกลับจากมาเลเซีย ซึ่งนักข่าวช่อง NBT ได้บันทึกภาพและเสียงในการพูดคุย แต่ได้ขอว่าอย่าเอารายละเอียดออกมาเผยแพร่

นายภูมิธรรมระบุต่อว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความชื่นชมและยินดีกับไทยอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รู้ว่าไทยถูกตอบโต้ ถูกรุกรานเรา และไทยตอบโต้กลับไปตามสมควร อีกทั้งในช่วงท้ายของการพูดคุย มีเรื่องภาษี ว่าสหรัฐฯ มีเจตจำนงอย่างไร ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่าพึงพอใจและเชื่อมั่นประเทศไทย จะจัดการเรื่องภาษีให้ดีที่สุด เท่าที่จะดีได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้พูดถึงรายละเอียด ซึ่งเท่าที่ดูท่าทีของเขา เขาอยากมาเยี่ยมเมืองไทย อยากมาเจอตนเองที่ประเทศไทย และคิดว่าไทยมีวัฒนธรรมต่างๆที่ดี เป็นเรื่องที่ดีถึงบอกว่านโยบายต่างๆที่พูดคุยกันมาเป็นเรื่องที่ดี

“ผมเชื่อว่า จากการพูดคุยกัน เจรจากัน และที่นายพิชัยไปพูดคุย เชื่อว่าผลงานจะออกมาดี” 

รมว.คลัง ไม่ได้ยืนยันอัตราภาษี 18% ตามกระแสข่าวลือ  
 
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง โพสต์ข้อความว่า ช่วงนี้มีคำถามจากประชาชนและภาคธุรกิจว่า "ไทยจะถูกเก็บภาษีการค้าใหม่จากสหรัฐฯ ภายใต้นโยบาย Reciprocal Tariff ของประธานาธิบดีทรัมป์ในอัตราเท่าไหร่?" ขอชี้แจงว่าขณะนี้ยังไม่แจ้งผลอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะได้รับการแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง

สิ่งสำคัญที่อยากสื่อสาร ณ เวลานี้คือทีมเจรจาของไทยทำงานอย่างเต็มที่ รอบคอบในทุกมิติ ทั้งข้อมูลการค้า กฎหมายระหว่างประเทศ ผลกระทบต่อการผลิต ส่งออก และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในภาพรวม

รมว.คลัง ระบุว่า เรามุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนที่ไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด และในขณะเดียวกันก็ต้องรับฟังและวิเคราะห์ข้อเรียกร้องจากฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่เจรจาที่ "แข็ง" และ "ซับซ้อน" ที่สุด โดยเฉพาะเนื้อหาในกรอบ ART Agreement (Agreement on Reciprocal Tariffs) ที่มีข้อผูกพันและเงื่อนไขหลากหลาย

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมไทยได้ส่งข้อเสนอและข้อสังเกตกลับไปกลับมากับทางสหรัฐฯ หลายรอบ ด้วยท่าทีสร้างสรรค์ มีเหตุมีผล และอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค เพื่อหาทางออกร่วมกันภายใต้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนระหว่างทั้งสองประเทศ

แม้ขณะนี้เรายังไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ แต่ขอให้มั่นใจว่าทีมเจรจาของไทยไม่ได้เงียบ ไม่ได้นิ่งเฉย และไม่ได้ประนีประนอมโดยง่าย ทุกประเด็นล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้

"ผมหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่า รัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว"นายพิชัย ระบุ

หน้าแรก » การเมือง