วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:04 น.

การเมือง

 เผยคณะทูตเห็นกับตา! กัมพูชาโจมตีพลเรือน – ชื่นชมไทยเปิดเผยข้อเท็จจริงชายแดน 

วันศุกร์ ที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 20.00 น.

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม  2568  เวลา 18.00 น. ที่ห้องประชุมนภาอาสน์ กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการพาคณะทูตและผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่วันนี้เรานำคณะทูต 11 คน 11 ประเทศ ผู้ช่วยทูตทหาร 38 คนจาก 23 ประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ จำนวนรวมกว่า 150 คน เข้าร่วมสังเกตการณ์ในพื้นที่ร้านสะดวกซื้อในปั้มน้ำมัน โรงพยาบาล และเยี่ยมดูศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งได้รับผลกระทบจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย ไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมโดยกัมพูชา ซึ่งวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ครั้งนี้

เราตั้งใจให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ เป็นที่รับทราบในวงกว้าง ซึ่งสื่อจะเป็นช่องทางในการสื่อสารกับประชาคมโลก ต้องการให้เห็นข้อเท็จจริงและประเมินผลจากการปะทะชายแดน เพื่อให้ได้เห็นกับตา สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเพื่อสื่อสารต่อชาวโลก ให้เห็นความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียน ที่กัมพูชาเริ่มพุ่งเป้าโจมไปยังเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงกว่า 150,000 คน

เราได้แสดงให้เห็นถึงความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา การไปที่ร้านสะดวกซื้อที่ถูกโจมตีด้วยจรวด มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีแม่ละลูก 3 รายที่ไม่ได้กลับออกมาอีก มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ที่ถูกโจมตีเสียหาย และไปที่ศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ ที่ยังมีผู้อพยพอยู่อีก 5,000 คน

นายนิกรเดช กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เราดำเนินการอย่างโปร่งใส จัดให้เห็นข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของคณะ และเน้นความโปร่งใสเพราะหากเปรียบเทียบกับฝ่ายกัมพูชา เราให้สังเกตการณ์ทุกพื้นที่ สื่อมวลชนสามารถติดตามและถ่ายทอดสดได้ตลอดเวลา รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบด้านจิตใจ ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้าน

ทั้งนี้คณะทูตทุกท่านต่างแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่จัดการลงพื้นที่ด้วยความจริงใจ ขอย้ำว่าประเทศไทยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด สิ่งที่ประชาคมโลกได้เห็นการลงพื้นที่ในวันนี้ตนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าสุดท้ายแล้วความจริงจะชนะทุกอย่าง

เมื่อถามว่าทางคณะทูตได้แสดงท่าทีอะไรออกมาบ้างนอกจากการขอบคุณ นายนิกรเดช กล่าวว่า เขาไม่ได้แค่ขอบคุณ แต่เขาได้เห็นกับตาถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับประชาชน การมาครั้งนี้สำคัญมาก ไม่เพียงแต่เห็นสถานที่ที่พังทลาย แต่เขาได้คุยกับญาติผู้เสียชีวิต ได้คุยกับประชาชนที่ต้องอพยพ

ถามว่าเขารู้สึกอย่างไร ตนบอกได้โดยไม่ขอระบุประเทศว่าเขาเห็นใจเรา ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนเหล่านี้ต้องมาเป็นเหยื่อ เขาไม่เห็นประเด็นว่าทำไมไทยต้องเป็นผู้เริ่มเป็นไปไม่ได้ เขาเห็นอกเห็นใจแสดงท่าทีสนับสนุนสิ่งที่ไทยทำ ชื่นชมในการดูแลประชาชน ทั้งครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบและผู้อพยพ

เมื่อถามอีกว่าผลการลงพื้นที่ถือเป็นทิศทางที่ดีใช่หรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า เป็นทางที่ดีทั้งหมด ตนได้คุยกับท่านเหล่านั้น ท่านเห็นอกเห็นใจมากว่า เราเป็นเหยื่อ ชัดเจนมากว่า มีการล้ำมาในประเทศไทยเกือบ 30 กิโลเมตร ในการที่เขาเหมือนไม่เล็ง หรือตั้งใจเล็งมาที่ประชาชนเป้าหมายที่ไม่ใช่ทหาร ยืนยันไทยทำบนหลักการ แต่กัมพูชาไม่อยู่บนหลักการ

โฆษก กต. กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้คณะทูตทั้งหลายได้เห็นความจริง ได้เห็นพื้นที่จริง ได้เจอคนที่ต้องย้ายออกจากบ้าน ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่เราพูดมาเป็นข้อเท็จ ตนคิดว่าเราจะได้รับการตอบรับในสิ่งที่เราเรียกร้องและขอการสนับสนุนจากเขา
 

หน้าแรก » การเมือง