การเมือง
วิเคราะห์สงครามไซเบอร์ไทย-กัมพูชาปมตอบโต้ชายแดน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

จากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ลุกลามจนเกิดการปะทะด้วยอาวุธหนัก ได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาคโดยตรง อย่างไรก็ตาม นอกจากการสู้รบในสนามจริงแล้ว ปรากฏการณ์ “สงครามไซเบอร์” ระหว่างทั้งสองประเทศได้เกิดขึ้นควบคู่ในโลกออนไลน์ อันเป็นผลสะท้อนของการทำสงครามในยุคดิจิทัล บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ลักษณะ กลยุทธ์ และผลกระทบของสงครามไซเบอร์ที่เกิดขึ้น รวมถึงบทบาทของภาครัฐและสื่อมวลชนในการเฝ้าระวังและตอบโต้ภัยไซเบอร์ อ้างอิงจากข้อมูลเชิงลึกของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และแนวคิดด้านความมั่นคงไซเบอร์ร่วมสมัย
1. บทนำ
โลกในยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนโฉมหน้าของความขัดแย้งระหว่างประเทศ จากการต่อสู้ในสนามรบด้วยกำลังอาวุธ สู่ “สมรภูมิออนไลน์” ที่ใช้ข้อมูล ข่าวสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอาวุธ ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาล่าสุดที่บริเวณชายแดน จึงไม่เพียงเป็นเหตุการณ์ระดับภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามไซเบอร์ที่กำลังขยายตัว
2. ลักษณะของสงครามไซเบอร์ในกรณีไทย-กัมพูชา
2.1 การโจมตีแบบ DDoS
หนึ่งในวิธีการที่ใช้กันแพร่หลายคือการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) โดยเป็นการใช้บอตเน็ตจำนวนมากเข้าโจมตีเว็บไซต์ให้ล่ม ซึ่งในกรณีนี้มีเป้าหมายคือเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐไทย เช่น กระทรวงต่าง ๆ และเว็บไซต์ของสื่อมวลชน
2.2 การเจาะข้อมูลบัญชีและรหัสผ่าน
พบว่ามีการนำบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านของบุคลากรในหน่วยงานไทย รวมถึงสื่อมวลชน ไปใช้ในการเข้าถึงระบบเว็บไซต์ อีเมล และระบบจัดการโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้สามารถแพร่ข่าวปลอมหรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะโจมตีทางการเมือง
2.3 Information Operations (IO)
มีการใช้บัญชีปลอม บอต และเครือข่ายโซเชียลมีเดียในการปั่นกระแส โดยเฉพาะการรายงานเพจของสื่อไทยเพื่อให้ถูกปิด การคอมเมนต์เชิงลบ และการปล่อยข่าวปลอมเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยและสร้างความตื่นตระหนกในสังคม
3. บทวิเคราะห์ทางยุทธศาสตร์ไซเบอร์
3.1 ลักษณะของสงครามไฮบริด (Hybrid Warfare)
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนรูปแบบสงครามยุคใหม่ที่เรียกว่า "สงครามไฮบริด" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้อาวุธจริงกับการปฏิบัติการข่าวสารและไซเบอร์ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารโดยตรงเท่านั้น
3.2 สงครามไซเบอร์โดยรัฐหรือกลุ่มพลเมือง?
แม้ภาครัฐของกัมพูชาจะไม่ได้ประกาศชัดเจนถึงการมีส่วนร่วม แต่แฮกเกอร์หลายกลุ่มจากกัมพูชากลับเคลมความสำเร็จในการเจาะระบบของไทย โดยอาศัยช่องว่างของข้อมูลที่รั่วไหลในระดับโลก ทั้งนี้ อาจเป็นการดำเนินการของกลุ่ม “ผู้สนับสนุนชาติ” (Hacktivist) ซึ่งมักแฝงตัวภายใต้แนวคิดชาตินิยม
3.3 ผลกระทบทางเศรษฐกิจและความมั่นคง
การโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของระบบบริการสาธารณะ ความเสียหายต่อชื่อเสียงของสื่อมวลชน และกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน นอกจากนี้ ยังอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศหากไม่สามารถรับมือกับภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. มาตรการตอบโต้และการเตรียมความพร้อม
4.1 การตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง
สกมช. ได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับการโจมตี โดยเฉพาะจากการโจมตีแบบ DDoS และการพยายามเข้าถึงระบบของหน่วยงานรัฐ
4.2 การประสานกับสื่อมวลชน
สกมช. ร่วมมือกับสื่อมวลชนไทยในการยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น การตั้งค่าความปลอดภัยเว็บไซต์ การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) และการจัดการบัญชีผู้ใช้ที่มีความเสี่ยง
4.3 การให้บริการตรวจสอบข้อมูลรั่วไหล
เปิดช่องทางให้หน่วยงานสามารถส่งข้อมูลเพื่อให้ตรวจสอบว่ามีบัญชีหรือรหัสผ่านรั่วไหลหรือไม่ พร้อมคำแนะนำในการจัดการความปลอดภัยเชิงรุก
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ระดับชาติ: ควรเพิ่มงบประมาณด้าน Cybersecurity และส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มและบุคลากรภายในประเทศ
จัดตั้งกลไกร่วมอาเซียน: ใช้บทบาทของอาเซียนในการวางแนวทางความร่วมมือไซเบอร์ระดับภูมิภาค ลดความเสี่ยงจากสงครามไซเบอร์ข้ามชาติ
เสริมสร้างการรู้เท่าทันดิจิทัล: ส่งเสริมการรู้เท่าทันข่าวปลอม การตรวจสอบแหล่งที่มา และการไม่แชร์ข้อมูลที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง
เร่งอุดช่องโหว่ของสื่อและหน่วยงานรัฐ: อัปเดตระบบความปลอดภัยให้เป็นปัจจุบัน ตรวจสอบบัญชีที่รั่วไหล และควบคุมการเข้าถึงระบบอย่างเข้มงวด
6. บทสรุป
สงครามไซเบอร์ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นบทเรียนสำคัญว่าความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการสู้รบทางกายภาพอีกต่อไป ความสามารถในการป้องกันและรับมือกับภัยไซเบอร์ได้อย่างมีระบบ เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาอธิปไตยของชาติ บทบาทของรัฐ สื่อมวลชน และภาคประชาชนจึงต้องบูรณาการร่วมกันอย่างเร่งด่วน เพื่อยับยั้งการแทรกแซงที่อาจลุกลามและกระทบต่อเสถียรภาพของสังคมไทยในระยะยาว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- โฆษก กต. ชี้หากกัมพูชาทิ้งศพทหารไว้ตามชายแดนจริง เข้าข่ายไร้มนุษยธรรม 4 ส.ค. 2568
- วิเคราะห์สาเหตุที่กัมพูชาไม่เก็บศพทหาร หลังการเจรจาหยุดยิงกับไทย 4 ส.ค. 2568
- "ดร.มหานิยม" เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจภรรยาอดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเหล่าปอแดง จ.สกลนคร 4 ส.ค. 2568
- แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบเงิน 4 ล้านผ่านวุฒิสภา ช่วยผู้ประสบเหตุชายแดน ย้ำพร้อมรับมือสถานการณ์-แจงไม่มีไทยช่วยเก็บระเบิด 4 ส.ค. 2568
- คนไทยแห่จี้ถาม "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต" ทำไมไม่เก็บศพทหารเขมร ปล่อยนอนตายเกลื่อนชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่เจรจาหยุดยิง 4 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
“ดร.นิยม” ร่วมไว้อาลัยอดีตนายอำเภอวาริชภูมิ แสดงความอาลัยแด่ครอบครัวผู้วายชนม์ 21:56 น.
- กองทัพบกยืนยัน "ไม่ได้ถอย" จากปราสาทตาควาย ชี้เป็นยุทธวิธีการรบ 21:15 น.
- กองทัพอากาศแจ้งพบโดรนลอบบินสำรวจฐานทัพ-หน่วยงานรัฐ เข้าข่าย "จารกรรม" โทษสูงสุดถึงประหาร 21:07 น.
- "วราวุธ" กำชับ ทีม ศรส.-พม.บุรีรัมย์ ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวทหารเสียชีวิต อยู่กระต๊อบ ไม่มีน้ำ-ไฟฟ้าใช้ 20:25 น.
- "ดร.วราภัสร์" ปธ.กมธ.การพัฒนาสังคมฯ นำคณะลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนสุรินทร์ 20:00 น.