วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 12:57 น.

การเมือง

"บิ๊กเล็ก" ขอกัมพูชาเก็บร้างไร้วิญญาณทหาร ก่อนจะมีเชื้อโรคระบาด 18 เชลยศึกอยู่ครบไทยดูแลตามหลักสากล

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.00 น.

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568    เวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมไตรภาคีระหว่าง ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย ว่าได้มีการหารือประเด็นทหารกัมพูชา 18 นายที่ตกเป็นเฉลยศึก ภายหลังฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งไทยได้เปิดให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) และองค์กรระหว่างประเทศเข้าตรวจสอบแล้ว และยืนยันว่าทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โปร่งใส และตรวจสอบได้ตามหลักสากล

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า แม้บางฝ่ายอาจตำหนิว่าไทยมีท่าที “สุภาพบุรุษเกินไป” แต่ตนเชื่อว่าการดำเนินการที่ยึดหลักมนุษยธรรมจะทำให้ไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ พร้อมยืนยันว่าการสอบสวนเฉลยทั้ง 18 นายยังดำเนินอยู่ โดยเน้นการเก็บข้อมูลและหลักฐานอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายกัมพูชานำไปบิดเบือนข้อเท็จจริงในอนาคต จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะส่งตัวกลับเมื่อใด

อีกประเด็นสำคัญที่ไทยหยิบยกในที่ประชุม คือการขอให้รัฐบาลกัมพูชานำศพทหารที่เสียชีวิตตามแนวหน้าชายแดนกลับประเทศ เนื่องจากยังมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากตกค้างอยู่บริเวณพื้นที่ปะทะ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขอนามัยและโรคระบาดในพื้นที่ โดยเฉพาะต่อประชาชนกัมพูชาที่อาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ ไทยในฐานะคู่กรณียังยึดมั่นในศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร และได้ส่งศพทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในฝั่งไทยกลับไปด้วยความเคารพ แม้รัฐบาลกัมพูชาจะปฏิเสธการรับรองว่าเป็นทหารของตน

“เรายืนยันว่าทำทุกอย่างด้วยความสุจริต ยึดหลักมนุษยธรรม และให้เกียรติผู้เสียชีวิต แม้เขาจะเป็นฝ่ายตรงข้าม เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทหารทุกนายต่างทำหน้าที่รับใช้ชาติของตน” พล.อ.ณัฐพล กล่าวในช่วงท้าย พร้อมทิ้งท้ายว่า หากดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตรับรู้ได้ ก็คงเสียใจที่ถูกละเลยโดยรัฐบาลของตนเอง 

หมายเหตุ - วิเคราะห์สาเหตุที่กัมพูชาไม่เก็บศพทหาร หลังการเจรจาหยุดยิงกับไทย news/politic/440675

 

พลเอกณัฐพล  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบโดรนตรวจการณ์ในหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุดของทัพบกมีการยืนยันว่าเป็นโดรน ที่พบในจังหวัดสุรินทร์ ของไทย จึงทำให้ประชาชนมีความกังวลและสับสน ว่า ขณะนี้ มีปะปนกันแต่ที่พบจำนวนมากคือเป็นของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเราได้ทำการบันทึกไว้ทั้งหมด และกองทัพภาคที่2ก็มีการรายงานเข้ามาตลอด มีภาพและพิกัดที่บินล้ำพื้นที่เข้ามา โดยวันนี้จะนำ เรื่องนี้เข้าที่ประชุม ศบ.ทก.ด้วย ขณะเดียวกันยังพบว่ามีคนไทยบางส่วนที่บินโดรน ที่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่า ทำเพราะอะไรเพราะปัจจุบัน กสทช. ก็มีการห้ามบินโดนทั่วประเทศอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวระบุว่ามีโดรนจากไทยบินล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา ตนมั่นใจว่าเป็นการเห็นโดรนของฝั่งกัมพูชาที่บินกลับจากการตรวจการฝั่งไทย ซึ่งเป็นโดรนของเขาเอง ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะเมื่อเขาพูดเองก็เสียเอง

ส่วนฐานบินของโดมที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากบินมาจากฝั่งกัมพูชาจะต้องถูกสกัดที่ชายแดน หรือมีฐานบินในประเทศนั้น ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียดเพราะขณะนี้ได้มอบให้กับกองทัพอากาศดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่สสถานการณ์ขณะนี้ถือว่ายังเปราะบางหรือไม่ ประชาชนยังจะต้องอยู่ในศูนย์อพยพต่อหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า เปราะบาง เปราะบางจากข่าวปลอม อย่างเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าทหารไทยจะปฏิบัติการและขอให้ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งกองทัพก็ยืนยันกับตนว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งตนก็เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะทราบข่าวปลอมนี้เช่นเดียวกันจึงนำมาตั้งเรื่องว่ามีการเตรียมการ กัมพูชาหรือต้องเตรียมการเช่นเดียวกัน ดังนั้นสักวันนึงอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงอยากฝากมวลชนทุกท่าน ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าในยามนี้ พวกเราต้องรวมใจกันเป็นหนึ่งเพราะแค่ข่าวปลอมของกัมพูชา ก็ต้องนั่งแก้ปัญหากันทุกวันแล้ว แต่ยังมาเจอข่าวปลอมของพวกเราอีก ตรงนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงหนักใจมาก

พลเอกณัฐพล กล่าวอีกว่าเข้าใจดีว่าประชาชนเป็นห่วงไม่อยากช่วย แต่การช่วยกันในสถานการณ์นี้คืออยากให้ฟัง ศบ.ทก.เป็นหลัก แม้จะยอมรับว่าข่าวสารอาจจะช้าแต่ต้องตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง ศบ.ทก. พูดอะไรต้องใช่ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดอะไรออกไปแล้วไม่ถูกต้องก็จะค่อยๆขาดความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากขอสื่อมวลชนคือเมื่อมีการออกข่าวอะไรมาให้ตอบโต้ได้เลย เพราะสื่อไม่มีผลทางการ และหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ ของรัฐในการออกชี้แจง ซึ่งการตอบโต้กลับไปจะเป็นการช่วยรัฐได้ ไม่ใช่ว่า มาลีพูดมา แล้วสื่อมาด่ากองทัพเลยว่าทำไมไม่ตอบโต้ และหากพูดไปก็จะขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากเป็นการต่อปากต่อคำกับคนแบบนั้น
 

หน้าแรก » การเมือง