วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 06:09 น.

การเมือง

“ไทยสร้างไทย” ห่วงชาวบ้านชายแดนเจอวิกฤตซ้อนวิกฤต ไร้รายได้ หนี้สินพุ่ง หลังอพยพหนีเหตุปะทะ สูญเสียที่ทำกิน–ปศุสัตว์ล้มตาย 

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.07 น.

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568   นายทิวากร สุระชน รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเหตุปะทะตลอดช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เร่งด่วน สูญเสียที่ดินทำกิน อาชีพ และทรัพย์สิน และยังต้องเผชิญกับภาระหนี้สินที่สะสมมาจากวิกฤตก่อนหน้า

แม้สถานการณ์ในบางพื้นที่จะเริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลได้เริ่มจัดสรรงบเยียวยาระยะสั้น แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงไม่มีรายได้และไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน ทำให้ไม่สามารถส่งออกผักและผลไม้ที่เน่าเสียง่ายได้ทันเวลา ส่งผลให้ผลผลิตตกค้างและราคาตกต่ำ เกษตรกรจำนวนมากขาดรายได้

ในขณะเดียวกัน ภาคปศุสัตว์ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยมีรายงานการล้มตายของปศุสัตว์อย่างน้อย 48 ตัวในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยที่เกษตรกรขาดแคลนอาหารสัตว์ และต้องพึ่งพาการช่วยเหลือฉุกเฉินจากกรมปศุสัตว์ที่จัดตั้งศูนย์อพยพสัตว์และส่งหญ้าแห้งเข้าพื้นที่
ด้านเศรษฐกิจชายแดน ภาพรวมได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปิดด่านสำคัญ เช่น ด่านอรัญประเทศ ด่านคลองใหญ่ และด่านจันทบุรี ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์การค้าทวิภาคีระหว่างไทย–กัมพูชา ที่มีมูลค่ารวมกว่า 175,000 ล้านบาทต่อปี โดยการหยุดชะงักของด่านการค้าทำให้รายได้จากการค้าชายแดนหายไปเฉลี่ยวันละ 500 ล้านบาท หรือคิดเป็นความเสียหายสูงถึง 14,000 ล้านบาทต่อเดือน

ภาคธุรกิจ SMEs และแรงงานข้ามชาติได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง หลายกิจการต้องปิดตัวลงหรือหยุดดำเนินการชั่วคราว ขณะที่แรงงานจากกัมพูชากว่า 400,000 คนที่พึ่งพางานฝั่งไทยขาดรายได้ทันที ส่งผลต่อความมั่นคงของครัวเรือนในทั้งสองประเทศ

ประชาชนในหลายพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี ต้องพักอาศัยอยู่ในเต็นท์ชั่วคราว และแม้บางครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือด้านอาหารและการแพทย์ แต่ปัญหาหลักที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขคือการขาดรายได้และการเยียวยาด้านหนี้สินอย่างเป็นรูปธรรม

นายทิวากร ระบุเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือประชาชนควรพิจารณาถึงสภาพความเป็นอยู่จริงของครัวเรือน ไม่ใช่เพียงแค่การแจกของหรือเงินช่วยเหลือระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากครอบครัวจำนวนมากที่อพยพออกจากพื้นที่ได้สูญเสียทุกอย่าง ทั้งที่ดินทำกิน ร้านค้า เครื่องมือประกอบอาชีพ และสัตว์เลี้ยง โดยที่ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินเดิม บางรายไม่มีทางเลือกนอกจากกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 50–60% ต่อปี
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ มีประชาชนและผู้ประกอบการกว่า 500,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ และยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการฟื้นฟูรายได้หรือเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของครัวเรือนอย่างยั่งยืน

พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิด พร้อมลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน และเสนอแนวทางการฟื้นฟูในระดับนโยบายที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคง การลดภาระหนี้ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะยาว 

หน้าแรก » การเมือง