วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 04:39 น.

การเมือง

 ชป.เร่งระบาย ควบคู่จัดการน้ำด้านบน ลดผลกระทบด้านท้าย รอง“เดช”สั่ง เตรียมพร้อมรับฝนใหม่สัปดาห์หน้า

วันจันทร์ ที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 18.19 น.

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) อาคาร 99ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทานสามเสน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยมี นายฐนันดร์  สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน  พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตลอดจนสำนักงานชลประทานที่ 1 -17 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมประชุม  เพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 
โดย นายเดช  กล่าวว่าจากการสำรวจล่าสุด(4 ส.ค.68) พบว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 50,275 ล้าน ลบ.ม. (66% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 26,228 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 17,049 ล้าน ลบ.ม. (69% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้รวมกันอีก 7,822 ล้าน ลบ.ม. แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีปริมาณน้ำจากฝนที่ตก ไหลลงอ่างฯอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุ สามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 1,511 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทาน จึงได้ร่วมบูรณาการกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  พิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตรา 45-50 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้าย เนื่องจากปัจจุบันปริมาณฝนเริ่มลดลงส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ลดลงและสามารถระบายได้ดี  โดยจะเริ่มปรับการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 4-10 ส.ค.นี้ เพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างฯ  ให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและเพิ่มช่องว่างในการรองรับน้ำจากฝนที่ตกเพิ่มในช่วงสัปดาห์หน้า
 ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดระดับน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์  ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้ปรับลดการรับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อรักษาระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ช่วยลดผลกระทบต่อกระชังปลาในลำน้ำสะแกกรัง และยกระดับน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรเหนือเขื่อนที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว  พร้อมควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำสุด  โดยจะพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและปริมาณน้ำทางตอนบน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดให้ได้มากที่สุด
 
อย่างไรก็ตามได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทุกพื้นที่ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อท้ายเขื่อน ตามข้อสั่งการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 5-7 และ 11-18 ส.ค.นี้ ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา   ที่สำคัญให้ปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 68 อย่างเคร่งครัด  รวมทั้งหมั่นตรวจสอบอาคารชลศาสตร์และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกำหนดพื้นที่เสี่ยง และมอบหมายเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที   สามารถลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุดต่อไป

 

หน้าแรก » การเมือง