เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568  นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ว่า ปัญหาเกิดมาจากความเจ้าเล่ห์ของผู้นำกัมพูชาประกอบกับไทย มีนโยบายชัดเจนในการตัดตอนปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ทั้งปัญหาเว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการปิดด่าน ส่งผลให้ผู้นำกัมพูชาไม่พอใจเพราะกระทบกับระบบเศรษฐกิจกัมพูชาโดยตรง จนเป็นทีมาของสงครามทั้งสองประเทศ

 นายสงคราม กล่าวด้วยว่า การก่อสงครามของกัมพูชาคือการกระทำที่คนไทยทั้งประเทศไม่อาจยอมรับได้ เมื่อเสียงปืนนัดแรกทางฝั่งกัมพูชาดังขึ้น กองทัพไทยจำเป็นต้องตอบโต้ และได้รับชัยชนะในที่สุด อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่ากองทัพกัมพูชายังมีความพยายามยั่วยุทหารไทยในหลายพื้นที่ทั้งการส่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนเพื่อสืบหาที่ตั้งของทหารไทย รวมทั้งการเสริมกำลังทหารเพื่อชิงพื้นยุทธศาสตร์ทางการทหาร เพื่อชิงความได้เปรียบในการรบดังนั้นกองทัพไทยยังคงต้องตรึงกำลังทหารตามแนวชายแดนรวมทั้งต้องใช้ความอดทนอดกลั้นมากกว่าเดิมเพื่อรับกับความเจ้าเล่ห์ของกองทัพกัมพูชา  
 
“การที่รัฐบาลและกองทัพเชิญผู้ช่วยทูตทางทหารรวมทั้งสื่อมวลชนจากทั่วโลก เดินทางไปดูสถานเกิดเหตุที่โดนระเบิดจากฝั่งกัมพูชารวมทั้งพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ทำให้ได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงถึงการกระทำของกองทัพกัมพูชาที่กระทำกับพลเรือนของไทย  ชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือกองทัพกัมพูชา ยิงไม่เลือก ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียนรวมทั้งเขตพลเรือน แม้กัมพูชาปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ยิงใส่แต่ภาพที่ปรากฎในสายตาสื่อมวลชนทั่วโลกคือความจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลและไทยใช้ความจริงเข้าสู้กับการให้ข้อมูลเท็จจากฝั่งกัมพูชา ส่งผลให้สื่อมวลชนทั่วโลกพร้อมรายงานความจริงจากเหตุการณ์ที่และไม่ให้ราคากับการสื่อสารที่มาจากฝั่งกัมพูชา เพราะหากใช้ความจริงเข้าชี้แจงสามารถพูดได้ทุกที่ทั่วโลกต่างจากการใช้ข้อมูลเท็จสื่อสารกับชาวโลกจะไร้ราคาในสายตาคนทั่วโลกเช่นกัน ”นายสงคราม กล่าว