วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568 10:34 น.

การเมือง

"บุ๋ม ปนัดดา"  แจง "พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ" ออกมาแขวะ เผยที่รับปากช่วยกองทัพ เพราะมีใจรักในแผ่นดินเกิด

วันเสาร์ ที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 16.21 น.

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568  ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม ปนัดดา ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ในฐานะโฆษกจิตอาสา ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตัวบุ๋มเองเป็นเพียงโฆษก ศบ.ทก. ภาคประชาชน ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเป็นทางการ ทำหน้าที่ในมุมจิตอาสา เลยไม่เข้าใจว่า มันทำให้บางกลุ่มต้องรวมพลัง ดาหน้ามาโจมตีด้วยเหตุผลอะไรนะคะ

อยากเรียนแจ้งว่า ถ้าถึงเวลาต้องสื่อสารจริง บุ๋มเข้าใจดีค่ะว่าต้องทำหน้าที่เจรจา แนะนำเสนอในข่าวที่เป็นความจริง ไม่เน้นการปะทะ มุ่งเน้นเสรีภาพและการทูต เลยไม่เข้าใจว่า ยังไม่ทันจะปฏิบัติหน้าที่แม้แต่ครั้งเดียว ก็กลายเป็นเป้านิ่งให้โจมตีเพราะอะไร เหตุผลเดียวที่รับปากมาช่วยกองทัพ เพราะมีใจรักในแผ่นดินเกิด และอยากใช้ปากเสียงของตนเองชี้แจงในมุมที่ประเทศเราตกอยู่ในข้อครหาผิดๆ เท่านั้นเอง 

ขณะที่ทางสำนักข่าว 'Phnompenhpost' (พนมเปญโพส) ตีข่าวที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ได้แต่งตั้งให้ อดีตนางสาวไทยปี 2543"'บุ๋ม' ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" รับหน้าที่โฆษกจิตอาสาทำหน้าที่ตอบโต้เฟกนิวส์กัมพูชา

โดยทาง "พนมเปญโพส" พาดหัวข่าวตัวใหญ่ว่า "Thailand Brings a Tiara; Cambodia Brings the Truth" (ประเทศใช้มงกุฏความงาม กัมพูชาใช้ความจริง) ระบุว่า ไม่บ่อยนักที่อดีตนางสาวไทยจะได้รับมอบหมายให้ปกป้องสิทธิ์เหนือดินแดนของประเทศ แต่นี่คือสิ่งที่ประเทศไทยได้ตัดสินใจแล้วว่า ในบริบทของข้อพิพาทชายแดนที่ซับซ้อนและยาวนานหลายทศวรรษ อาวุธที่ดีที่สุดในคลังแสงคือ "โฆษกอาสาสมัคร" ที่มีมงกุฎความงาม

แม้บางคนจะชื่นชม แต่ส่วนใหญ่คงมองว่า การกระทำของไทยเป็นเพียงกลอุบาย ที่ไทยเชื่อว่า หากข้อเท็จจริงไม่เข้าข้าง จึงลองเปลี่ยนวิธีด้วยการนำรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ เข้ามาช่วย สื่อกัมพูชายังทิ้งคำถามด้วยว่า สิ่งนี้คือกลยุทธ์การสื่อสารสาธารณะใช่หรือไม่

กัมพูชาต้องต่อสู้กับข่าวปลอมมานาน ก่อนที่ข้อพิพาทนี้จะปะทุขึ้นเสียอีก และมีการรณรงค์โครงการ "Say No to Fake News" มาเป็นเวลา 7 เดือนแล้ว แต่อันที่จริงรัฐบาลกัมพูชาพยายามต่อต้านข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจากการศึกษาสาธารณะ การฝึกอบรมความรู้ด้านสื่อ และระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบเร่งด่วน ความพยายามเหล่านี้ล้วนเป็นเชิงรุก มีความรับผิดชอบ และสอดคล้องกับการยอมรับในระดับนานาชาติ

ผลงานที่ผ่านมาทำให้จุดยืนของกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทนี้น่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะเรายึดมั่นในหลักการเดียวกัน เราไม่ต้องการเวที มงกุฎ หรือการแถลงข่าวที่ตื่นตาตื่นใจเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาของเรา เรามีเอกสารสำคัญ แผนที่ สนธิสัญญา และเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีความสำคัญยิ่งกว่าเสียงใดๆ

ในทางตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวของไทยบ่งบอกถึงกลยุทธ์ด้านสื่อมากกว่าเรื่องพรมแดน มันคือการเปลี่ยนจากการทูตไปสู่การเบี่ยงเบนความสนใจ เปลี่ยนประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของชาติให้กลายเป็นโรงละครแห่งเสน่ห์ และในโรงละคร ผู้ชมอาจปรบมือ แต่พวกเขาแทบไม่ได้แนวทางที่ชัดเจน

กัมพูชาตอบโต้ด้วยเอกสาร หลักฐาน และความน่าเชื่อถือของประเทศที่มุ่งมั่นต่อสู้กับข้อมูลเท็จอยู่แล้ว ส่วนไทยตอบโต้ด้วยการปรับโฉมการประชาสัมพันธ์ หากนี่เป็นการประกวดชุดประจำชาติยอดเยี่ยม บางทีอาจจะได้ผล แต่พรมแดนไม่ได้ถูกตัดสินจากความสง่างามและชุดราตรี แต่ถูกตัดสินด้วยประวัติศาสตร์และกฎหมาย

กัมพูชาจะยังคงทำในสิ่งที่เคยทำมาโดยตลอด นั่นคือการนำเสนอข้อเท็จจริง ปกป้องอธิปไตย และยึดมั่นในความจริงโดยยึดหลักการ ไม่ใช่การแสดง และเมื่อถึงเวลาสุดท้าย ข้อเท็จจริงจะยังคงอยู่ พรมแดนจะยังคงและประเทศกัมพูชาก็จะยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง