วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:28 น.

การเมือง

 “ชัชวาล ไทยสร้างไทย” จี้รัฐเคลียร์วันจ่ายชดเชยข้าว ไร่ละ 1,000–1,200 บาท ทวงคำตอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าววันนี้  

วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 12.21 น.

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวในปี 2568-2569 ว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกอยู่เพียง 6,300–7,000 บาทต่อตัน ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงถึง 7,800–8,900 บาทต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวนาปรัง ในพื้นที่ภาคกลาง ตกต่ำเหลือเพียง 4,000-5,000 บาทต่อตัน ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต (6,000-6,500 บาทต่อไร่ 

ไม่ต่างไปจากราคาข้าวที่ชัยนาทเหลือประมาณ 5,700-6,100 บาทต่อตัน ซึ่งไม่เหลือกำไรหลังหักต้นทุน ส่งผลให้ชาวนาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพและดำรงชีวิตประจำวัน

นายชัชวาล ระบุด้วยว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติหรือ นบข.รัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้ให้คำตอบกับพี่น้องชาวนาทั่วประเทศอย่างชัดเจน ว่าจะได้รับเงินชดเชยไร่ละ 1,000–1,200 บาทหรือไม่ และหากได้ จะจ่ายเมื่อใด เพราะการปล่อยให้ค้างคาโดยไม่มีคำตอบยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนของเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาขาดทุนและสภาพคล่องอย่างหนัก

สส.พรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ มาจากสถานการณ์ภายนอกประเทศ ทั้งปริมาณผลผลิตข้าวโลกที่สูงจนเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด การที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวแข่งกับไทย และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาข้าวไทยสูงในตลาดโลกและแข่งขันได้ยากขึ้น ส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ค่าแรง และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น การห้ามเผาฟางในนา ซึ่งเพิ่มต้นทุนให้เกษตรกร อีกทั้งระบบการจัดการอุตสาหกรรมข้าวยังไม่มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ขณะที่มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐยังล่าช้าและไม่ครอบคลุม เช่น การชดเชยเงินไร่ละ 1,000–1,200 บาท ที่ยังไม่มีกำหนดการจ่ายชัดเจน ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันนี้

นายชัชวาล เสนอให้รัฐบาลเร่งควบคุมราคาปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย ยา และวัสดุเกษตร เพื่อช่วยลดภาระต้นทุน พร้อมทบทวนนโยบายห้ามเผาฟาง และหาทางออกการจัดการฟางที่เหมาะสมและยั่งยืน ควบคู่กับการขยายตลาดส่งออกข้าวไปยังประเทศใหม่ ๆ เช่น จีน ซาอุดีอาระเบีย และญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความต้องการและพยุงราคาในระยะยาว

พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ระบบการตลาด และการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างตรงจุดและทันเวลา โดยเร่งจ่ายเงินชดเชยอย่างโปร่งใส และจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อติดตามและแก้ปัญหาราคาข้าว รวมถึงส่งเสริมให้เกษตรกรมีทางเลือกปลูกพืชชนิดอื่นที่มีตลาดและรายได้มั่นคง

ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งสร้างความชัดเจนและกำหนดวันจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000–1,200 บาทโดยด่วน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการประกาศกำหนดการจ่ายที่ชัดเจน ทำให้ชาวนาจำนวนมากต้องรอความช่วยเหลือท่ามกลางภาวะขาดทุนและปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก พร้อมย้ำว่ามาตรการช่วยเหลือต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และดำเนินการอย่างทันเวลา เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรจริง ลดความเดือดร้อนในระยะสั้น ขณะเดียวกันต้องมีแผนระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาต้นทุนการผลิตและราคาข้าวอย่างยั่งยืน 

หน้าแรก » การเมือง