เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้ลงพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสำรวจสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีกรณีกำลังฝ่ายกัมพูชารุกเข้ามาตัดรั้วลวดหนาม ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและบั่นทอนความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ

พื้นที่ช่องอานม้าเคยเป็นจุดผ่อนปรนการค้าระหว่างไทย–กัมพูชามานานกว่า 20 ปี แต่ตามบันทึกความเข้าใจปี 2543 (MOU 43) ได้กำหนดห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร ทว่าฝ่ายกัมพูชาได้ขึ้นมาก่อสร้างบ้านเรือน จัดตั้งครอบครัว และสร้าง “อนุสาวรีย์ตาอม” ภายในพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งเมื่อเกิดการสู้รบที่ผ่านมา กองกำลังไทยสามารถเข้ากระชับและควบคุมพื้นที่ซึ่งถือว่าอยู่ในเขตแดนไทยได้อีกครั้ง โดยมีชุมชนชาวกัมพูชากว่า 80 หลังคาเรือนตั้งอยู่ท่ามกลางรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงไว้

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ ได้เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อมีกำลังทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงท่าทีไม่พอใจ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าถึงการตรวจพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นชั่วคราว

ด้านกองกำลังไทยได้พยายามเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมกล่าวเตือนฝ่ายกัมพูชาว่า “ในฐานะทหาร ควรปฏิบัติตัวอย่างสุภาพและมีมารยาท เพราะทหารไทยยังให้เกียรติและสุภาพกับพวกคุณ”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายกัมพูชาเคยพาคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ฝั่งตนเองเข้ามาดูพื้นที่เดียวกัน แต่ฝ่ายไทยไม่ได้ขัดขวาง เพียงติดตามเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะห่าง ต่างจากกรณีที่เกิดขึ้นกับคณะผู้แทนอาเซียนในครั้งนี้