วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:10 น.

การเมือง

เกษตรฯเปิดแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตร หลังเหตุปะทะ 4 จังหวัด  แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 17.57 น.

เกษตรฯเปิดแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรชายแดน หลังเหตุปะทะ 4 จังหวัด  แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าเเยียวยา–แจกเสบียง–ผ่อนหนี้ พร้อมรับมือขาดแคลนแรงงานต่างด้าว 

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568  นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดเตรียมมาตรการฟื้นฟูระยะเร่งด่วนถึงระยะยั่งยืน หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบวงกว้างต่อเกษตรกรใน 7 จังหวัด 

สำหรับแผนฟื้นฟูที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้มีดังนี้

1. สำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบเงินทดรองราชการเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562
2. สนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ โดยจัดหา–แจกจ่ายตามความต้องการของเกษตรกร
3. ดูแลสุขภาพสัตว์และรักษาพยาบาลสัตว์
4. ส่งเสริมแหล่งอาหารในครัวเรือน ด้วยการแจกเมล็ดพันธุ์ผัก 40,000 ซอง รวมถึงส่งเสริม การเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อพลาสติกและกระชังบก
5. โครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ ปี 2568 ในราคาถูก โครงการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผ่านศูนย์ข้าวชุมชน และโครงการสนับสนุนปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
6. โครงการสนับสนุนพันธุ์หม่อนและไข่ไหม
7. โครงการปรับพื้นที่การเกษตร ปรับรูปแปลงนา ปรับระดับพื้นที่ และฟื้นฟูบำรุงดินโดยจะสนับสนุนสารพด.
8. โครงการลดภาระหนี้ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร ด้วยการผ่อนผัน–ขยายเวลาชำระหนี้ อีกทั้งยังสนับสนุนสินเชื่อรายใหม่ โดยปลอดดอกเบี้ย (เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เกิดผลกระทบแล้ว 32 สหกรณ์และ 6 กลุ่มเกษตรกร)
9. ชดเชยความเสียหายของทรัพย์สินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
10. การจ้างแรงงานในพื้นที่ได้รับผลกระทบซึ่งสามารถเริ่มได้ทันที

ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ไม่สงบมาอย่างต่อเนื่อง โดยทันทีที่เกิดเหตุปะทะได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทั้งส่วนกลางและภูมิภาคในการติดตามความเสียหายของเกษตรกรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง แล้วให้รายงานทุกวันเพื่อให้สามารถสั่งการช่วยเหลือเร่งด่วน จนถึงปัจจุบันมีรายงานความเสียหายดังนี้

- จังหวัดศรีสะเกษ สัตว์ตาย รวม 17 ตัว แบ่งเป็น โค 12 ตัว กระบือ 5 ตัว พื้นที่ประสบภัย 1 อำเภอ (กันทรลักษ์) 715 ไร่ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ส่วนด้านประมงไม่ได้รับผลกระทบ

- บุรีรัมย์ สัตว์ตาย รวม 8 ตัว แบ่งเป็น โค 3 ตัว สุกร 5 ตัว พื้นที่ประสบภัย 1 อำเภอ (บ้านกรวด) พื้นที่เกษตรเสียหาย 69 ไร่ประกอบด้วย ข้าว ยางพารา อ้อยโรงงาน ยูคาลิปตัส ด้านประมงเกษตรกร 1 ราย พื้นที่ 2 กระชัง 

- อุบลราชธานี สัตว์ตาย รวม 106 ตัว แบ่งเป็น โค 4 ตัว กระบือ 2 ตัว สัตว์ปีก 100 ตัว พื้นที่ประสบภัย 1 อำเภอ (น้ำยืน) เกษตรกร 14 ราย ได้แก่ ข้าว ยางพารา อ้อยโรงงาน ยูคาลิปตัส ด้านประมงไม่ได้รับผลกระทบ

- สุรินทร์ สัตว์ตาย 667 ตัว แบ่งเป็น โค 56 ตัว กระบือ 14 ตัว สุกร 2 ตัว แพะ 3 ตัว และสัตว์ปีก 592 ตัว พื้นที่ประสบภัยด้านพืช 2 อำเภอ (สังขะและกาบเชิง) 5.16 ไร่ ด้านประมงไม่ได้รับผลกระทบ


ทั้งนี้ใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหลักได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เกษตรกรประกอบอาชีพด้านปศุสัตว์ เกษตรกรประกอบอาชีพปศุสัตว์เป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้กรมปศุสัตว์ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ประกอบด้วย

- จัดตั้งศูนย์อพยพสัตว์ 122 จุดได้แก่ ศรีสะเกษ 6 จุด สุรินทร์ 3 จุด อุบลราชธานี 102 จุด จันทบุรี 10 จุด ตราด 1 จุด อพยพสัตว์ 1,112 ตัว ได้แก่ สุรินทร์ 933 ตัว อุบลราชธานี 179 ตัว
- จัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ทุกจังหวัดและได้มอบหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์แล้ว 239,500 กิโลกรัม ในพื้นที่สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี การดูแลสุขภาพสัตว์ 140 ซอง และรักษาสัตว์ 84 ตัว
- จัดตั้งโรงพยาบาลสนามด้านปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ 1 แห่ง
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังจัดตั้งศูนย์พักพิงในพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดรวม 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในอำเภอที่เกิดเหตุอพยพออกจากพื้นที่และให้ปฏิบัติงานในพื้นที่ปลอดภัย

พร้อมกันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและได้แจกจ่ายช่วยเหลือไปตามศูนย์พักพิงของแต่ละจังหวัดเรียบร้อยแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ย้ำว่า จะเดินหน้าฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกรในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อให้เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือเยียวยา ตลอดจนกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติอย่างมั่นคงเร็วที่สุด.

 
 

หน้าแรก » การเมือง