วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:32 น.

การเมือง

“แพทองธาร” เข้ากราบสมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 39 ปี ครอบครัวชินวัตรร่วมในพิธีสิริมงคล

วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 09.15 น.

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว “aimpintongta” โดยเผยภาพบรรยากาศครอบครัวชินวัตร ประกอบด้วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยสามีและบุตรสาว เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

การเข้าเฝ้าครั้งนี้จัดขึ้นในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 39 ปี ของนางสาวแพทองธาร โดยครอบครัวถือเป็นสิริมงคลและเป็นบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน 

ทั้งนี้นางสาวพินทองทา   ระบุว่า “แด่น้องรัก …อย่างที่เคยบอกเสมอว่า พี่รักและภูมิใจในตัวน้องเล็กของบ้านทุกวัน ตั้งแต่เติบโตด้วยกันมา 39 ปี น้องเป็นคนเข้มแข็งเสมอ (ปนดุบ้าง ) และมักจะทำทุกอย่างด้วยใจ พูดตรงไปตรงมาชัดเจน จนบางทีพี่ต้องตั้งสติก่อนไม่งั้นตกใจในความชัดเจนได้” น้องเป็นคนทุ่มเททำทุกอย่าง ด้วยความเต็ม 200 % โดยเฉพาะเรื่องปกป้องคนที่รัก น้องจริงใจและใจดีมากๆ อาจจะไม่ง่ายที่จะมองออกจากบุคคลิกที่เข้มแข็งของน้องแต่พี่มั่นใจ ว่าถ้าถามทุกคนที่ใกล้ชิด จะรู้และพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบนี้แน่นอน”

ซึ่งพี่อบอุ่นทุกครั้งที่ไปไหนเราไปด้วยกันตัวติดกันเหมือนฝาแฝด

วันเกิดปีนี้เช่นเคย พี่ขอให้น้องมีสุขภาพที่แข็งแรงมีจิตใจที่ใสบริสุทธิ์… มีสติและทำทุกอย่างด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ตั้งใจทุ่มเททำเพื่อประเทศและทุกคนแบบที่น้องทำมาตลอด”พี่เชื่อมั่นว่า “เจตนาที่บริสุทธิ์ และความเสียสละ

ของน้องจะเป็นบุญอันใหญ่หลวงที่ปกป้อง ให้น้องผ่านทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดี ”

วันนี้หรือวันไหนๆเมื่อไหร่หันมาจะเจอพี่และคนที่รักและมั่นใจในตัวน้องอีกมากมายนะ ส่งพลังและกำลังใจให้เจ้าของวันเกิดในวันนี้ค่ะ “สุขสันต์วันเกิดจ้า รักเธอเสมอออออ”

เข้ารับการไต่สวน คลิปจ้อฮุนเซนก่อนชี้ชะตา 29 ส.ค.นี้ 

ขณะเดียวกันที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันนี้ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลกรณีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของส.ว.จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรี ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

โดยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดไต่สวนพยาน จำนวน 2 ปากคือ น.ส.แพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยในการไต่สวนพยานบุคคลครั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนเป็นรายบุคคล ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะมีการติดตั้งโทรทัศน์ผ่านวงจรปิดภายในบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อถ่ายทอดภาพกับเสียงเฉพาะในช่วงแรกและช่วงท้ายของการพิจารณาเท่านั้น เมื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการไต่สวนพยานปากแรกจนถึงพยานปากสุดท้าย ช่วงนี้จะไม่มีการถ่ายทอดกระบวนการและขั้นตอนการไต่สวนผ่านโทรทัศน์วงจรปิด จะเป็นลักษณะการขึ้นภาพนิ่งศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่มีเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บริเวณโถงกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรั้วเหล็กมาตั้งเรียงจำกัดขอบเขต เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปพื้นที่หวงห้ามในส่วนบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มีสื่อมวลชนหลายสำนักทยอยเดินทางมาเกาะติดรายงานข่าวผลการพิจารณาไต่สวนในวันนี้ ขณะที่บริเวณโดยรอบ จะมีกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาลสองมาดูแลความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่เบื้องต้นมีรายงานว่า มีกำลังประมาณหนึ่งกองร้อย

โดยคาดว่า น.ส.แพทองธารจะเดินทางถึงศาลฯ ประมาณ 10.00 น. และเริ่มเข้ารับกระบวนการไต่สวนในเวลา 10.30 น.

สำหรับกระบวนการต่อไป หลังศาลรัฐธรรมนูญมีการไต่สวนพยานบุคคลในวันนี้ (21 ส.ค.) แล้ว ได้กำหนดให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงปิดคดียื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 27 ส.ค.หากไม่ยื่นภายในกำหนด ถือว่าไม่ติดใจยื่น จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติวันที่ 29 ส.ค.เวลา 09.30 น. และ นัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น.
 

หน้าแรก » การเมือง