ศบ.ทก. เผยกัมพูชาจัดฉากใช้เด็ก-เยาวชนสร้างภาพพูดเรื่องทุ่นระเบิด PMN-2 แถมใช้ชุมชน-คนแก่-คนพิการเป็นพื้นที่มั่น ลั่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน-อนาคตชาติสะท้อนขาดความรับผิดชอบ ย้ำ ไทยยืนหยัดคุ้มครองสิทธิเด็กบนเวทีโลก

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" นักแสดงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมชื่อดัง โพสต์ข้อความเดือดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตีแผ่ความจริงสุดสะเทือนใจ ว่ามีขบวนการใช้เด็กและผู้บริสุทธิ์บิดเบือนข้อเท็จจริงในการสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชา

บุ๋มเขียนข้อความชัดเจน พร้อมแนบภาพหลักฐานจริง ระบุว่า “นี่ไม่ใช่เพียงการแสดงละคร แต่คือการเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแลกผลประโยชน์ทางการเมือง” โดยเธอเปิดเผยว่า มีเด็กไทย 5 คนเสียชีวิต จากการโจมตีและการหยุดยิงที่ถูกฉีกทิ้งจากฝั่งกัมพูชา “เด็กไทย 5 คน จะไม่มีวันได้เติบโต พวกเขาถูกพรากชีวิตไปจากความรุนแรง นี่คือความจริงที่ไม่ควรถูกปกปิด”

ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังฟาดแรงถึงการสร้างภาพลวงโลกของกัมพูชา ที่นำเด็กมาวางหน้ากล้องเป็น โล่มนุษย์ สร้างภาพว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ทั้งที่ในความจริงแล้วกลับมีผู้บริสุทธิ์ฝ่ายไทยที่ต้องเสียสละ บุ๋มตั้งคำถามที่สะเทือนใจว่า“ถ้าเด็กเหล่านั้นเป็นลูกหลานใครก็ตาม จะมีใครยอมให้เอาชีวิตพวกเขาไปเสี่ยงแบบนี้หรือไม่?” นอกจากนี้ เธอยังกล่าวถึงกลยุทธ์ “ล็อบบี้ยิสต์ปลอมตัวเป็นนักข่าวทำเนียบขาว” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูลบิดเบือน และตอกย้ำว่าเรื่องนี้คือ “เกมการเมืองที่โหดร้าย”

โพสต์ดังกล่าวของบุ๋มได้ปิดท้ายด้วยแฮชแท็ก #TruthfromThailand เพื่อส่งสัญญาณไปยังเวทีโลก ว่าเสียงของประเทศไทยและความจริงอีกด้านต้องถูกได้ยิน ทันทีที่โพสต์ถูกเผยแพร่ โลกออนไลน์ก็ระอุ! ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจบุ๋ม พร้อมแชร์โพสต์ต่อกันสนั่น ขณะที่อีกหลายเสียงเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐหยิบยกประเด็นนี้ไปเจรจาในเวทีนานาชาติ เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง

ศบ.ทก. ชี้กัมพูชาจัดฉากใช้เด็กพูดเรื่องทุ่นระเบิด PMN-2 สะท้อนขาดความรับผิดชอบ

ขณะที่นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก ศบ.ทก. ถึงกรณีคลิปวิดีโอที่นำเด็กชาวกัมพูชา มาพูดเรื่องทุ่นระเบิด PMN-2 และประเด็นการหาประโยชน์และการนำเด็กและเยาวชนมาเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ว่า ประเทศไทยขอประนามอย่างรุนแรง ต่อการนำพลเรือนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน สตรีและคนพิการ มาใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นสร้างความตรึงเครียดหรือเป็นเกาะกำบังในสถานการณ์ขัดแย้งต่าง ๆ ไม่ว่าด้วนอาวุธหรือในโลกดิจิทัลและการศึกษา

นางมาระตี กล่าวอีกว่า การกระทำเช่นนี้ไม่เป็นเพียงน่าละอาย แต่ยังเป็นการลดทอนคุณค่าการเป็นมนุษย์ของเด็กและเยาวชนที่ควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ผลักไปอยู่แถวหน้าเพื่อรับผลกระทบแทนผู้ใหญ่ ย้ำว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการจัดฉากในกลุ่มคนเหล่านี้ ให้ออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์และให้อยู่ในแนวหน้า อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็ยังเห็นกรณีทหารกัมพูชาใช้พื้นที่ชุมชนเป็นฐานที่มั่น รวมถึงกรณีเด็กคนชราและคนพิการในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่กลายเป็นด่านหน้าในพื้นที่ โดยมีการวางรวดหนาม เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่าขาดการไตร่ตรองความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง เป็นการกระทำที่อารยประเทศย่อมเห็นชัดว่าไม่ต่างอะไรกับการใช้อนาคตของชาติมาปิดบังความรับผิดชอบของผู้ใหญ่

นางมาระตี กล่าวอีกว่า ในส่วนประเทศไทยยังยืนหยัด ในเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีในเวทีโลกสากล เราไม่สามารถยอมรับการละเมิดเช่นนี้ได้ เพราะการกระทำดังกล่าว ขัดต่อหลักการและขัดต่อการถือประโยชน์ของเด็ก ซึ่งเป็นหัวใจของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ อีกทั้ง ยังระเมิดหลักกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศรวมถึงสามัญสำนึกที่พึ่งมี อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการผ่านกลไกสนธิสัญญาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาคมโลกร่วมกันเรียกร้องให้หยุดการหาประโยชน์จากเด็กเช่นนี้